พรรครีพับลิกันของโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มได้ที่นั่งวุฒิสภาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งที่เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) และเป็นที่คาดว่าจะรักษาเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไว้ได้ ทำให้มีโอกาสสูงที่จะได้ควบคุมสภาคองเกรสทั้งสองสภาในปีหน้า
สื่อหลายสำนักรายงานว่า เดฟ แมคคอร์มิค จากพรรครีพับลิกัน มีแนวโน้มจะเอาชนะ บ็อบ เคซีย์ วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตในรัฐเพนซิลเวเนีย ส่งผลให้พรรคของทรัมป์จะมีที่นั่งในวุฒิสภาอย่างน้อย 53 จากทั้งหมด 100 ที่นั่งในปีหน้า และอาจเพิ่มเป็น 55 ที่นั่งหากชนะในรัฐแอริโซนาและเนวาดาที่ยังนับคะแนนไม่เสร็จ
ในการชิงชัยสภาผู้แทนราษฎรนั้น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าพรรครีพับลิกันได้ที่นั่งแน่นอนแล้ว 211 จากทั้งหมด 435 ที่นั่ง เหลือเพียงแค่ 7 ก็จะได้เสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตต้องชนะให้ได้ถึง 21 จาก 27 เขตที่ยังไม่ประกาศผลจึงจะรักษาอำนาจในการบริหารกรุงวอชิงตันไว้ได้
ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งสภาผู้แทนฯ ต้องรออีกสักระยะ เนื่องจาก 11 เขตที่เหลืออยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมักใช้เวลานับคะแนนหลายวัน
เมื่อควบคุมวุฒิสภาได้ พรรครีพับลิกันจะมีอำนาจรับรองผู้ที่ทรัมป์เสนอชื่อเข้าดำรงตำแหน่งต่าง ๆ รวมถึงตุลาการ แต่การผ่านร่างกฎหมายส่วนใหญ่ยังต้องใช้เสียงสนับสนุนถึง 60 เสียง ซึ่งพรรคยังไม่มีเสียงมากพอ
นอกจากนี้ หากควบคุมสภาผู้แทนราษฎรได้ พรรครีพับลิกันจะผลักดันนโยบายหาเสียงของทรัมป์ได้สำเร็จ โดยเฉพาะการลดภาษีและการคุมเข้มคนเข้าเมือง
สำหรับผลการเลือกตั้งวุฒิสภาที่ยังไม่ประกาศในอีก 2 รัฐ ได้แก่
รัฐเนวาดา - แจ็กกี โรเซน (เดโมแครต) นำ แซม บราวน์ (รีพับลิกัน) เพียงไม่ถึง 1% จากคะแนนโหวตที่นับแล้ว 94%
รัฐแอริโซนา - รูเบน กัลเลโก (เดโมแครต) นำ คารี เลค (รีพับลิกัน) อยู่ 1.7% จากคะแนนโหวตที่นับแล้ว 74%