สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่า ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ทาบทามวุฒิสมาชิก มาร์โก รูบิโอ วัย 53 ปี นั่งแท่นรัฐมนตรีต่างประเทศ ส่งผลให้เขามีโอกาสที่จะได้เป็นชาวละตินคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.
รูบิโอถือเป็นผู้ที่ดูมีทัศนคติแข็งกร้าวที่สุดในบรรดาผู้ที่มีแววดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ โดยเขาเป็นผู้ที่สนับสนุนให้มีการดำเนินนโยบายการต่างประเทศที่เข้มงวดมากขึ้นกับศัตรูทางภูมิรัฐศาสตร์ของสหรัฐฯ รวมถึง จีน อิหร่าน และคิวบา
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ผ่อนปรนท่าทีบางอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของทรัมป์มากขึ้น โดยทรัมป์ได้จวกบรรดาผู้นำรุ่นก่อน ๆ ว่า นำพาอเมริกาเข้าสู่สงครามที่สิ้นเปลืองและไร้ประโยชน์ และผลักดันนโยบายต่างประเทศที่สงวนท่าทีมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม คณะบริหารชุดใหม่ของทรัมป์จะต้องเผชิญหน้ากับโลกที่มีความผันผวนมากกว่าสมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งสมัยแรกในปี 2560 ซึ่งมีทั้งสงครามในยูเครนและตะวันออกกลาง และท่าทีของจีนที่มีความใกล้ชิดกับศัตรูของสหรัฐฯ อย่างรัสเซียและอิหร่านมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ วิกฤตในยูเครนจะเป็นวาระที่สำคัญยิ่งของรูบิโอ ก่อนหน้านี้ เขาให้สัมภาษณ์ว่า ยูเครนจำเป็นต้องเร่งเจรจารอบใหม่กับรัสเซีย แทนที่จะมุ่งเป้าไปที่การกอบกู้ดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เขายังเป็นหนึ่งในวุฒิสมาชิก 15 คนจากพรรครีพับลิกันที่ลงคะแนนเสียงไม่เห็นชอบกับการมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนมูลค่า 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ได้รับการอนุมัติในเดือนเม.ย.ด้วย