เบน แอนด์ เจอร์รีส์ (Ben & Jerry's) แบรนด์ไอศกรีมชื่อดัง ได้ยื่นฟ้องบริษัทแม่อย่างยูนิลีเวอร์ (Unilever) เมื่อวันพุธ (13 พ.ย.) โดยกล่าวหาว่าบริษัทถูกยูนิลีเวอร์ปิดกั้นไม่ให้แสดงจุดยืนสนับสนุนผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ อีกทั้งยังถูกข่มขู่ว่าจะยุบคณะกรรมการบริษัทและดำเนินคดีกับกรรมการแต่ละคนในประเด็นดังกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คดีความครั้งนี้สะท้อนให้เห็นความขัดแย้งระหว่างเบน แอนด์ เจอร์รีส์ กับยูนิลีเวอร์ที่ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในปี 2564 เมื่อเบน แอนด์ เจอร์รีส์ ตัดสินใจยุติการจำหน่ายไอศกรีมในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลยึดครอง ด้วยเหตุผลว่าขัดต่อค่านิยมของบริษัท การตัดสินใจดังกล่าวนำไปสู่การฟ้องร้องระหว่างสองบริษัท ก่อนจะมีการตกลงประนีประนอมกันได้ในปี 2565
เบน แอนด์ เจอร์รีส์ กล่าวหาว่า ยูนิลีเวอร์ละเมิดข้อตกลงปี 2565 ที่ระบุว่า ยูนิลีเวอร์ต้อง "เคารพและยอมรับความรับผิดชอบหลักของคณะกรรมการอิสระของเบน แอนด์ เจอร์รีส์ เกี่ยวกับพันธกิจทางสังคมของเบน แอนด์ เจอร์รีส์"
คำฟ้องระบุว่า "เบน แอนด์ เจอร์รีส์ ได้พยายามที่จะแสดงจุดยืนต่อสาธารณะเพื่อสนับสนุนสันติภาพและสิทธิมนุษยชนถึง 4 ครั้ง แต่ยูนิลีเวอร์ได้ปิดกั้นความพยายามเหล่านี้ทั้งหมด"
เบน แอนด์ เจอร์รีส์ พยายามแสดงจุดยืนในหลายประเด็น ทั้งการเรียกร้องให้หยุดยิง การสนับสนุนให้สหราชอาณาจักร (UK) เปิดรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ การร่วมสนับสนุนการประท้วงของนักศึกษาที่คัดค้านการสังหารพลเรือนในฉนวนกาซา รวมถึงการผลักดันให้สหรัฐฯ ยุติการสนับสนุนทางทหารแก่อิสราเอล แต่ความพยายามทั้งหมดนี้ถูกยูนิลีเวอร์สกัดกั้น
ทั้งนี้ ข้อตกลงในปี 2565 ระบุว่า ยูนิลีเวอร์ต้องมอบเงิน 5 ล้านดอลลาร์ให้เบน แอนด์ เจอร์รีส์ เพื่อนำไปบริจาคแก่องค์กรสิทธิมนุษยชน แต่จากคำฟ้องระบุว่า ยูนิลีเวอร์ได้คัดค้านรายชื่อองค์กรที่เบน แอนด์ เจอร์รีส์เสนอ