รัฐบาลของอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์ หลังมอบสัญญาในการประมูลก่อสร้างเครือข่าย 5G แห่งที่ 2 ของประเทศให้กับหนึ่งในผู้ให้บริการรายเล็กที่สุดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. คณะกรรมการการสื่อสารและมัลติมีเดียแห่งมาเลเซีย (MCMC) ได้เลือกบริษัทยูโมบายล์ (U Mobile Sdn.) แทนที่จะเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง เซลคอมดิจิ (CelcomDigi Bhd.) และแม็กซิส (Maxis Bhd.) ซึ่งนักวิเคราะห์บางส่วนระบุว่า เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ
บีเอ็มไอ (BMI) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยของฟิทช์ โซลูชันส์ ระบุในเอกสารเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ว่า การที่ยูโมบายล์ได้รับเลือกนั้น "นับว่าน่าประหลาดใจ" เมื่อพิจารณาจากขนาดองค์กร และ "การพึ่งพาการลงทุนจากต่างชาติ" พร้อมขอให้ทางการ "ชี้แจงเกี่ยวกับข้อดีของข้อเสนอของยูโมบายล์"
MCMC ระบุว่า กระบวนการคัดเลือกมีการดำเนินการอย่าง "เข้มงวด" โดย ฟาห์มี ฟาดซิล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารของมาเลเซียยืนยันว่า การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นที่สุดแล้วและจะไม่มีการทบทวนใด ๆ อีก
ทั้งนี้ สเตรทส์ โมบายล์ อินเวสต์เมนต์ (Straits Mobile Investments Pte.) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของยูโมบายล์ เป็นบริษัทหนึ่งในเครือเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ (Temasek Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ โดยถือหุ้นอยู่เกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด ขณะที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 คือสุลต่านอิบราฮิม อิสกันดาร์ กษัตริย์ของมาเลเซียที่ถือหุ้นราว 22% โดยประธานของยูโมบายล์คือวินเซนต์ ตัน เจ้าพ่อในวงการธุรกิจ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องน่าปวดหัวล่าสุดของอันวาร์ที่เพิ่งเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำในเดือนพ.ย. 2565 โดยให้คำมั่นว่าจะปราบปรามระบบอุปถัมภ์และการทุจริตให้หมดสิ้น
อัสรุล ฮาดี อับดุลลาห์ ซานี หุ้นส่วนของเอดีเอ (ADA) ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาประจำภูมิภาคกล่าวว่า "กระบวนการมอบสัญญาดังกล่าวถือว่าขัดกับความมุ่งมั่นต่อหลักธรรมาภิบาลอันดีของอันวาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้"