สมาชิกสภานิติบัญญัติของรัสเซียออกโรงเตือนว่า การที่สหรัฐอเมริกาตัดสินใจอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้ามาในดินแดนของรัสเซียจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น และอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สามในที่สุด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่า คณะบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย โดยยูเครนมีแผนจะดำเนินการโจมตีจากระยะไกลครั้งแรกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของปฏิบัติการด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
วลาดิเมียร์ ซาบารอฟ รองประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างประเทศของสภาสูงรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียจะตอบโต้ทันที
"นี่ถือเป็นก้าวสำคัญมากในการเปิดฉากสงครามโลกครั้งที่สาม" สำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของทางการรัสเซีย อ้างคำพูดของซาบารอฟ
ลีโอนิด สลุตสกี ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างประเทศของสภาล่างรัสเซีย กล่าวว่า การที่สหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนโจมตีรัสเซียด้วยขีปนาวุธยุทธวิธี ATACMS ของสหรัฐฯ จะส่งผลให้รัสเซียต้องตอบโต้อย่างรุนแรงที่สุด
"การใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้ามาในดินแดนของรัสเซีย ย่อมส่งผลให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายกว่านั้นมาก" สำนักข่าวทาสส์อ้างคำพูดของสลุตสกี
ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า ชาติตะวันตกต้องรบกับรัสเซียโดยตรง หากอนุญาตให้ยูเครนโจมตีดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลที่ผลิตโดยชาติตะวันตก พร้อมกับเน้นย้ำว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ลักษณะและขอบเขตของความขัดแย้งเปลี่ยนแปลงไป