สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ว่า โฮเวิร์ด ลัทนิค ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขยายความร่วมมือทางการเงินกับบริษัทเทเธอร์ (Tether) ผู้ให้บริการสเตเบิลคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผ่านโครงการปล่อยกู้มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยให้ลูกค้าใช้บิตคอยน์เป็นหลักประกัน
รายงานระบุโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า แคนทอร์ ฟิตซ์เจอรัล (Cantor Fitzgerald) บริษัทบริการทางการเงินของลัทนิค กำลังเจรจากับเทเธอร์ เพื่อขอการสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับโครงการดังกล่าว ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะขยายมูลค่าการลงทุนไปถึงหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
เทเธอร์ชี้แจงผ่านอีเมลถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "Tether Investments กำลังพิจารณานำผลกำไรบางส่วนที่ทำได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไปใช้สำหรับโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย"
บลูมเบิร์กรายงานว่า เทเธอร์ได้ว่าจ้างบริษัทแคนทอร์ให้เก็บรักษาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยพันธบัตรเหล่านี้ใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันเหรียญสเตเบิลคอยน์ของเทเธอร์ให้มีเสถียรภาพ จากความร่วมมือนี้ ทำให้บริษัทของลัทนิคได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ต่อปี
อนึ่ง สเตเบิลคอยน์คือเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นให้มีมูลค่าคงที่ โดยใช้เงินจริงอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ หรือยูโรมาค้ำประกันมูลค่าเอาไว้