ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งยกฟ้องคดีอาญาระดับรัฐบาลกลางที่กล่าวหาว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งปี 2563 หลังจากอัยการขอถอนฟ้องคดีนี้และอีกคดีหนึ่งที่ฟ้องร้องทรัมป์ โดยอ้างนโยบายของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ห้ามดำเนินคดีกับปธน.ขณะดำรงตำแหน่ง
คำสั่งของผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ทันยา ชุตกัน ถือเป็นการยุติความพยายามของรัฐบาลกลางในการดำเนินคดีอาญากับทรัมป์ ผู้ไม่ยอมสละอำนาจหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งปี 2563 ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์บุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนของทรัมป์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่แจ็ก สมิธ อัยการพิเศษผู้รับผิดชอบทั้งสองคดี ได้ขอยุติการดำเนินคดีทั้งสองคดี ได้แก่ คดีแทรกแซงการเลือกตั้ง และคดีครอบครองเอกสารลับโดยมิชอบ โดยคดีหลังเกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์พ้นตำแหน่งปธน.สมัยแรกในปี 2564
นโยบายของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่อัยการยกมาอ้างนั้นเริ่มใช้มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 โดยมีสาระสำคัญว่า การดำเนินคดีอาญากับประธานาธิบดีขณะที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่นั้น จะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากจะกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของประมุขฝ่ายบริหารของประเทศ
อัยการที่ดำเนินคดีเรื่องความพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งได้ยื่นเอกสารต่อศาล ระบุว่า ตามนโยบายของกระทรวงยุติธรรม จำเป็นต้องถอนฟ้องคดีนี้ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งปธน.
"การถอนฟ้องครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงหรือน้ำหนักพยานหลักฐานในคดีที่ฟ้องร้องจำเลยแต่อย่างใด" อัยการระบุในเอกสารที่ยื่นต่อศาล
อัยการในคดีนี้แจ้งว่าจะยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ เพื่อขอดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับทรัมป์ 2 ราย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าขัดขวางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่
ด้านสตีเวน เฉิง โฆษกของทรัมป์ กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้เป็น "ชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับหลักนิติธรรม"