แหล่งข่าวเลบานอนระดับสูง 4 รายเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (26 พ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เตรียมประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลในเร็ว ๆ นี้
ขณะที่จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่า "เราใกล้บรรลุข้อตกลงแล้ว" แต่ย้ำว่า "ยังไม่มีอะไรเสร็จสมบูรณ์จนกว่าจะตกลงกันได้ทั้งหมด"
ทางด้านทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า การเจรจาหยุดยิงมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเจ้าหน้าที่อาวุโสของอิสราเอลรายหนึ่งเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอิสราเอลจะประชุมในวันอังคาร (27 พ.ย.) เพื่อลงมติเห็นชอบข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สัญญาณของความคืบหน้าทางการทูตมีขึ้น แม้อิสราเอลยังคงทิ้งระเบิดทางอากาศอย่างหนักใส่พื้นที่ชานเมืองทางใต้ของเบรุตซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ การโจมตีนี้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการทางทหารที่อิสราเอลเปิดฉากขึ้นในเดือนก.ย. หลังจากมีการปะทะข้ามพรมแดนมาเกือบหนึ่งปี
สำนักนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อรายงานที่ว่าอิสราเอลและเลบานอนได้ตกลงเห็นชอบเนื้อหาของข้อตกลงแล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลได้เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารนี้มีขึ้นเพื่อลงมติรับรองเนื้อหาของข้อตกลงดังกล่าว
แดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรอิสราเอลประจำสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า อิสราเอลจะยังคงสงวนสิทธิ์ในการโจมตีพื้นที่ทางใต้ของเลบานอน ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายเลบานอนได้คัดค้านเงื่อนไขที่จะให้สิทธิ์ดังกล่าวแก่อิสราเอล
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่า ช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังมีขั้นตอนที่ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการเพื่อให้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน
ทั้งนี้ ความพยายามทางการทูตนี้มุ่งเป้าไปที่การยุติการสู้รบระหว่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอล ซึ่งปะทุขึ้นในเดือนต.ค. 2566 พร้อม ๆ กับสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา โดยในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ความขัดแย้งในเลบานอนได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก