คลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโกออกมาเตือนว่าที่ปธน.สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันอังคาร (26 พ.ย.) ว่า การขึ้นภาษีนำเข้าจะส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ พร้อมบ่งชี้ถึงมาตรการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้น หลังทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีนำเข้า 25% จากเม็กซิโกและแคนาดา
"ภาษีนำเข้าหนึ่งจะนำไปสู่ภาษีนำเข้าอีกหนึ่งเป็นการตอบโต้ วนเวียนไปเรื่อย ๆ จนธุรกิจร่วมของเราตกอยู่ในความเสี่ยง" ปธน.เชนบามกล่าวในจดหมายถึงทรัมป์ซึ่งเธออ่านในที่แถลงข่าว พร้อมเตือนว่า การขึ้นภาษีนำเข้าจะก่อให้เกิดเงินเฟ้อและการสูญเสียงานในทั้งสองประเทศ
ปธน.เชนบามเปิดเผยว่า เธอจะพยายามติดต่อทรัมป์ทางโทรศัพท์ และจะส่งจดหมายถึงจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาด้วย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทรัมป์ซึ่งมีกำหนดเข้ารับตำแหน่งวันที่ 20 ม.ค. ประกาศเมื่อคืนวันจันทร์ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% จากแคนาดาและเม็กซิโก จนกว่าทั้งสองประเทศจะจัดการปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะเฟนทานิล และแก้ปัญหาการลักลอบข้ามพรมแดนให้ได้ผล
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ เดือนก.ย.ระบุว่า เม็กซิโกเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ คิดเป็น 15.8% ของมูลค่าการค้าทั้งหมด ตามด้วยแคนาดาที่ 13.9% ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเม็กซิโกเช่นกัน
ปธน.เชนบามกล่าวว่า การขึ้นภาษีระหว่างกันแบบนี้จะมีประโยชน์อะไร พร้อมชี้ว่าผลกระทบจะหนักหน่วงโดยเฉพาะกับบริษัทผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ ที่มีโรงงานในเม็กซิโก อย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) และฟอร์ด (Ford)
อนึ่ง อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นภาคการผลิตที่สำคัญที่สุดของเม็กซิโก คิดเป็นมูลค่ากว่า 35% ของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกหลัก รถยนต์ที่ผลิตในเม็กซิโกราว 79% ถูกส่งข้ามพรมแดนไปยังสหรัฐฯ
การผลิตรถยนต์ในเม็กซิโกคิดเป็นเกือบ 25% ของกำลังการผลิตทั้งหมดในทวีปอเมริกาเหนือ
ทั้งนี้ การที่ทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดานั้น อาจจะเป็นการละเมิดข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ซึ่งทรัมป์เองเป็นผู้ลงนามเป็นกฎหมายและมีผลบังคับใช้ในปี 2563 เมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งปธน.สมัยแรก
ปธน.เชนบามกล่าวว่า รัฐบาลของเธอได้แสดงให้เห็นว่า เม็กซิโกพร้อมช่วยแก้ปัญหาการระบาดของเฟนทานิลในสหรัฐฯ พร้อมชี้ว่า สถิติการจับกุมผู้อพยพที่ชายแดนมีจำนวนลดลง อีกทั้งไม่พบขบวนคาราวานผู้อพยพที่ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกอีกต่อไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ปธน.เชนบามก็ระบุว่า กลุ่มอาชญากรในเม็กซิโกยังคงได้รับอาวุธปืนจากสหรัฐฯ
"เราไม่ได้ผลิตอาวุธ เราไม่ได้เสพยาสังเคราะห์ แต่น่าเสียใจที่ประชาชนของเราต้องตายเพราะอาชญากรรมที่เกิดจากความต้องการในประเทศของคุณ" ปธน.เชนบามกล่าว
ทั้งนี้ เงินเปโซเม็กซิโกอ่อนค่าลงประมาณ 2% เมื่อวันอังคาร ทำให้การอ่อนค่าลงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมารุนแรงยิ่งขึ้น
ปธน.เชนบามแสดงความมั่นใจว่า เม็กซิโกจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับทรัมป์ได้ แต่หากสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้า เม็กซิโกก็มีแผนที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ
"เราไม่ได้มองแค่ทางเหนือ แต่มองทั้งทางใต้และทวีปยุโรปด้วย เม็กซิโกเข้มแข็ง และเราจะยืนหยัดเหนือทุกอุปสรรคเสมอ" ปธน.เชนบามกล่าว