สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมจัดส่งยุทโธปกรณ์มูลค่า 725 ล้านดอลลาร์ให้ยูเครน โดยปธน.ไบเดนหวังจะเสริมความเข้มแข็งให้รัฐบาลยูเครนก่อนพ้นวาระในเดือนม.ค.
แหล่งข่าวเผยว่า รัฐบาลไบเดนวางแผนส่งมอบอาวุธต่อต้านรถถังหลากชนิดจากคลังแสงสหรัฐฯ เพื่อสกัดการรุกคืบของกองกำลังรัสเซีย อาทิ ทุ่นระเบิด โดรน ขีปนาวุธสติงเกอร์ และกระสุนสำหรับระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรสูง (HIMARS)
ตามเอกสารที่รอยเตอร์ได้ตรวจสอบ คาดว่าแพ็คเกจอาวุธชุดนี้จะมีระเบิดพวงด้วย ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในระบบจรวดนำวิถี Guided Multiple Launch Rocket (GMLRS) ที่ใช้ยิงจากฐาน HIMARS
แหล่งข่าวระบุว่า การยื่นเรื่องต่อรัฐสภาเพื่อขออนุมัติแพ็คเกจอาวุธชุดนี้อาจเกิดขึ้นได้เร็วสุดในวันจันทร์หน้า (2 ธ.ค.) โดยรายละเอียดและมูลค่าของแพ็คเกจยังอาจมีการปรับเปลี่ยนในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า ก่อนที่ปธน.ไบเดนจะลงนามรับรอง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มงบช่วยเหลือที่สูงกว่าปกติมาก เมื่อเทียบกับการใช้อำนาจพิเศษที่เรียกว่า "อำนาจเบิกถอนของประธานาธิบดี" (PDA) ครั้งก่อน ๆ ของปธน.ไบเดน ซึ่งเป็นอำนาจที่ให้สหรัฐฯ สามารถนำอาวุธจากคลังแสงปัจจุบันไปช่วยเหลือพันธมิตรในยามฉุกเฉินได้
ที่ผ่านมา การอนุมัติ PDA แต่ละครั้งมักมีมูลค่าระหว่าง 125-250 ล้านดอลลาร์ ขณะนี้ ปธน.ไบเดนยังมีงบ PDA ที่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาเหลืออยู่ราว 4-5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะถูกใช้จนหมดก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ปธน.สหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.
อนึ่ง สหรัฐฯ งดส่งออกทุ่นระเบิดมานานหลายสิบปีแล้ว เพราะการใช้อาวุธประเภทนี้ยังเป็นประเด็นถกเถียง ด้วยความกังวลว่าอาจเป็นอันตรายต่อพลเรือน แม้จะมีกว่า 160 ประเทศร่วมลงนามในสนธิสัญญาห้ามใช้ทุ่นระเบิด แต่ยูเครนก็ได้ร้องขออาวุธชนิดนี้มาตั้งแต่รัสเซียบุกเมื่อต้นปี 2565 ขณะที่ฝ่ายรัสเซียเองก็ใช้ทุ่นระเบิดในแนวรบอยู่แล้ว
ทุ่นระเบิดที่จะส่งมอบให้ยูเครนนั้นเป็นชนิด "ชั่วคราว" มีระบบพลังงานที่ทำงานในระยะเวลาจำกัด ต่างจากทุ่นระเบิดรุ่นเก่าที่ฝังตัวอยู่ในดินและคุกคามชีวิตพลเรือนไปอีกนาน
สหรัฐฯ เชื่อว่ายูเครนจะใช้ทุ่นระเบิดเหล่านี้ภายในอาณาเขตของตน โดยยูเครนได้ให้คำมั่นว่าจะไม่นำไปใช้ในพื้นที่ที่มีพลเรือนอาศัยอยู่