มิเชล บาร์นิเยร์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ประกาศยกเลิกแผนปรับขึ้นภาษีไฟฟ้าในงบประมาณปี 2568 เมื่อวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.) หลังถูกกดดันจากพรรคฝ่ายขวาจัดที่ขู่จะล้มรัฐบาล หากไม่ช่วยบรรเทาภาระของชนชั้นแรงงาน
อย่างไรก็ตาม พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (RN) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด ส่งสัญญาณว่า การประนีประนอมครั้งนี้ยังไม่มากพอที่จะยับยั้งการลงมติไม่ไว้วางใจในสัปดาห์หน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลบาร์นิเยร์ตั้งเป้าจะระดมทุนให้ได้ราว 3 พันล้านยูโร (3.17 พันล้านดอลลาร์) ด้วยการปรับขึ้นภาษีไฟฟ้าที่เคยถูกตัดจนแทบเป็นศูนย์ในช่วงวิกฤตพลังงาน 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการใหญ่เพื่ออุดรูรั่วทางการคลังด้วยการเพิ่มภาษีและตัดงบประมาณรวม 6 หมื่นล้านยูโร
แต่แล้ว กระแสต่อต้านร่างงบประมาณอย่างท่วมท้นจากทั้งฝ่ายซ้ายและขวาจัด ก็ทำให้นายกฯ และรัฐบาลของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะเลือกลดทอนความมุ่งมั่นด้านการคลังแล้วเสี่ยงทำให้การเงินของประเทศสั่นคลอน หรือจะเลือกเผชิญญัตติไม่ไว้วางใจที่อาจพลิกเกมการเมืองได้ทุกเมื่อ
"พรรคแนวร่วมแห่งชาติได้รับชัยชนะแล้ว เมื่อมิเชล บาร์นิเยร์ ยอมยกเลิกภาษีไฟฟ้ามูลค่า 3 พันล้านยูโร ... แต่เราจะหยุดอยู่แค่นี้ไม่ได้ ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่ยอมไม่ได้ให้ต้องจัดการอีกมาก" จอร์แดน บาร์เดลลา หัวหน้าพรรค RN โพสต์ข้อความบนเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์)
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา พรรค RN ได้ตอกย้ำจุดยืนเรื่องงบประมาณที่ "ยอมไม่ได้" ของมารีน เลอเปน ซึ่งรวมถึงแผนของรัฐบาลที่จะชะลอการปรับขึ้นเงินบำนาญตามเงินเฟ้อ และการจัดระบบเงินสมทบประกันสังคมของบริษัทเสียใหม่
รัฐบาลเสียงข้างน้อยของบาร์นิเยร์อาจไม่รอดพ้นสัปดาห์หน้า เมื่อในวันจันทร์ (2 ธ.ค.) รัฐบาลจะถูกบีบให้ใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49.3 ผ่านร่างงบประมาณประกันสังคมโดยไม่ต้องขอมติจากรัฐสภา เพราะไร้เสียงสนับสนุน ซึ่งย่อมนำไปสู่การยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ
"วันนี้เป็นวันพฤหัสบดี (นายกฯ) มีเวลาถึงวันจันทร์" มารีน เลอเปน ผู้นำฝ่ายขวาจัด กล่าวกับหนังสือพิมพ์เลอมงด์
ถึงแม้รัฐบาลจะรอดพ้นไปได้ในสัปดาห์หน้า แต่เหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้อาจเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อถึงกำหนดส่งงบประมาณรวมกลางเดือนธ.ค. เนื่องจากพรรคฝ่ายขวาจัดย้ำชัดว่า งบประมาณในรูปแบบปัจจุบันยังไม่เป็นที่ยอมรับ