ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวแสดงความประสงค์ที่จะยุติสงครามกับรัสเซียในไม่ช้า และระบุว่ายูเครนสามารถกลับมามีกรรมสิทธิเหนือดินแดนที่รัสเซียยึดครองโดยผ่านการเจรจาทางการทูต ถ้าหากยูเครนได้รับการยืนยันในการเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของปธน.เซเลนสกี ซึ่งก่อนหน้านี้ยืนกรานว่า สงครามจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียยอมคืนดินแดนของยูเครนที่ยึดครองไป
ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวสกายนิวส์ ซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า การทำสงครามในยูเครนสามารถยุติลงได้ หากนาโตให้การค้ำประกันความมั่นคงของยูเครนเหนือดินแดนที่รัฐบาลยูเครนครอบครองในขณะนี้
ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า การทำข้อตกลงหยุดยิงจะต้องมีการรับประกันว่ารัสเซียจะต้องไม่กลับมายึดครองดินแดนของยูเครนเพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้ยึดครองดินแดนยูเครนไปแล้วราว 20% โดยรัสเซียได้ผนวกคาบสมุทรไครเมียในปี 2557 รวมถึงแคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริซเซียในปี 2565
"ถ้าเราต้องการยุติสงคราม เราจำเป็นที่จะต้องนำดินแดนที่เราครอบครองในขณะนี้ให้อยู่ภายใต้การปกป้องของนาโต"
"เราจำเป็นต้องทำอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้น ยูเครนสามารถกลับมาครอบครองดินแดนที่ถูกยึดไปโดยผ่านการเจรจาทางการทูต" ปธน.เซเลนสกีกล่าวต่อสกายนิวส์
นอกจากนี้ ปธน.เซเลนสกียังได้กล่าวย้ำจุดยืนดังกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโดในวันนี้