รี ชาง-ยอง ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กรณีที่พรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ได้ยื่นญัตติถอดถอนยุน ซอกยอล ให้พ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดี จะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือและทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของประเทศ
ผู้ว่าการ BOK แสดงความเห็นดังกล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงโซลเมื่อวานนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากที่ปธน.ยุน ซอกยอล สร้างความตกตะลึงด้วยการประกาศกฎอัยการศึกในคืนวันอังคารที่ 3 ธ.ค. ก่อนที่จะยกเลิกคำประกาศภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ส่งผลให้พรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ซึ่งรวมถึงพรรคประชาธิปไตย ยื่นญัตติต่อรัฐสภาของเกาหลีใต้เพื่อถอดถอนปธน.ยุน โดยจะมีการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนในวันเสาร์นี้ (7 ธ.ค.)
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า การประกาศกฏอัยการศึกส่งผลให้เงินวอนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ในวันพุธที่ 4 ธ.ค. และฉุดตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดิ่งลงอย่างหนักในวันดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการ BOK กล่าวว่าขณะนี้ตลาดเริ่มมีเสถียรภาพ และคาดว่าผลกระทบจากการประกาศกฎอัยการศึกจะคงอยู่ไม่นาน นอกจากนี้ ผู้ว่าการ BOK ยังปฏิเสธกระแสคาดการณ์ที่ว่า BOK จะปรับแนวโน้มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจและทิศทางนโยบายการเงิน
"การประกาศกฎอัยการศึกเป็นเพียงเหตุผลทางการเมืองเท่านั้น เราสามารถแยกเหตุการณ์ทางการเมืองออกจากพลวัตทางเศรษฐกิจได้" ผู้ว่าการ BOK กล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไม่ได้เชื่อมโยงกับการเมือง
"แม้จะเป็นเรื่องยากในการคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะดำเนินไปอย่างไรหลังจากเกิดกระบวนการถอดถอนปธน.ยุน ซึ่งอาจจะสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาด แต่ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อตลาด หากมองจากอดีตที่ผ่านมา" ผู้ว่าการ BOK กล่าว