ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ตัดสินยืนตามกฎหมายบังคับ TikTok ขายกิจการต้นปีหน้า

ข่าวต่างประเทศ Saturday December 7, 2024 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ ตัดสินเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ให้ยืนตามกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ของจีน ต้องขายกิจการติ๊กต๊อก (TikTok) แอปวิดีโอสั้นยอดนิยมในสหรัฐฯ ภายในต้นปีหน้า มิฉะนั้นจะเผชิญกับการถูกแบน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การตัดสินดังกล่าวถือเป็นชัยชนะอย่างสมบูรณ์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ รวมถึงฝ่ายที่ต่อต้านแอปนี้ และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อไบต์แดนซ์ โดยคำตัดสินนี้เพิ่มโอกาสในการแบนติ๊กต๊อกในอีกเพียง 6 สัปดาห์ ขณะที่แอปนี้มีผู้ใช้งานชาวอเมริกันถึง 170 ล้านคน

ทั้งนี้ ไบต์แดนซ์และติ๊กต๊อกอาจยื่นอุทธรณ์คำตัดสินล่าสุดต่อศาลสูงสุดหรือคณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์เต็มคณะ

ศาลอุทธรณ์ระบุว่า กฎหมายนี้เป็นผลจากการดำเนินการอย่างละเอียดและได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคในรัฐสภาและประธานาธิบดีหลายคน กฎหมายได้ถูกออกแบบมาอย่างรอบคอบเพื่อจัดการเฉพาะกับการควบคุมโดยฝ่ายตรงข้ามจากต่างประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามมากขึ้นในการตอบโต้ภัยคุกคามด้านความมั่นคงแห่งชาติจากสาธารณรัฐประชาชนจีน

ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งได้แก่ ศรี ศรีนิวาสัน, นีโอมิ เรา และดักลาส กินส์เบิร์ก ได้พิจารณาคดีที่ติ๊กต๊อกและผู้ใช้งานยื่นฟ้องกฎหมายนี้ซึ่งกำหนดให้ไบต์แดนซ์ต้องขายหรือแยกกิจการในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 19 ม.ค. 2568มิฉะนั้นจะเผชิญกับการถูกแบน

คำตัดสินดังกล่าว เว้นแต่ศาลสูงสุดจะกลับคำนั้น จะทำให้ชะตากรรมของติ๊กต๊อกขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าจะอนุญาตให้ขยายเวลา 90 วันจากกำหนดเส้นตายในวันที่ 19 ม.ค. เพื่อให้ขายกิจการได้หรือไม่ และหลังจากนั้นก็จะขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า ไบต์แดนซ์จะสามารถพิสูจน์ได้ว่า มีความคืบหน้าในการขายกิจการมากพอที่จะได้รับการขยายเวลาหรือไม่

ทรัมป์ซึ่งเคยพยายามแบนติ๊กต๊อกในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรกเมื่อปี 2563 แต่ไม่สำเร็จ ได้กล่าวไว้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนพ.ย.ว่า เขาจะไม่ยอมให้มีการสั่งแบนติ๊กต๊อก

ศาลอุทธรณ์ยอมรับว่า คำตัดสินนี้จะนำไปสู่การแบนติ๊กต๊อกในวันที่ 19 ม.ค. 2568 หากไบเดนไม่อนุมัติให้มีการขยายกำหนดเส้นตายออกไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ