โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีคาดว่า เขาจะสามารถหาทางประสานงานกับโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ เพื่อยุติสงครามของรัสเซียกับยูเครน พร้อมทั้งปฏิเสธความกังวลที่ว่า การเปลี่ยนแปลงผู้นำของสหรัฐฯ อาจทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของยูเครน
"ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถพัฒนากลยุทธ์ร่วมกันสำหรับยูเครนได้" ชอลซ์กล่าวในการสัมภาษณ์ที่เผยแพร่โดย Funke ซึ่งเป็นสื่อของเยอรมนีในวันนี้ (7 ธ.ค.)
"ผมได้พูดคุยทางโทรศัพท์เป็นเวลานานกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเรายังติดต่อโดยตรงกับที่ปรึกษาของเขาในเรื่องนโยบายความมั่นคง"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์และทีมงานของเขาได้วิพากษ์วิจารณ์การสนับสนุนอย่างไม่จำกัดที่มีให้กับยูเครนในการขับไล่กองกำลังของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียโดยไม่ตั้งเป้าหมายใด ๆ นอกเหนือจากชัยชนะที่สมบูรณ์ แต่ในขณะที่ทหารรัสเซียมีความคืบหน้า ขวัญกำลังใจและยุทโธปกรณ์ที่ลดลงของยูเครน ทำให้เจ้าหน้าที่ในกรุงวอชิงตันและโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนส่งสัญญาณว่า การหยุดการสู้รบโดยการเจรจาน่าจะเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้
นโยบายของโจ ไบเดนและทรัมป์ต่อสงครามยูเครนมีบางจุดที่เหมือนกันคือการเสริมสร้างกองทัพยูเครนและทำลายเศรษฐกิจรัสเซียผ่านการคว่ำบาตร เพื่อผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาต่อรองกัน แม้ว่าไบเดนสัญญาว่าจะสนับสนุนยูเครนจนกว่าสงครามจะยุติ แต่ทรัมป์ที่เตรียมเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. 2568 ได้สัญญาว่า จะยุติสงครามอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ชอลซ์ย้ำว่าไม่มีมติใดที่จะสามารถบังคับยูเครนได้ และยูเครนจะต้องสามารถปกป้องอธิปไตยของตนเอง"