โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความเห็นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) ว่า สหรัฐฯ ไม่ควรเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในซีเรีย ซึ่งขณะนี้กลุ่มกบฏซีเรียกกำลังสั่นคลอนรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
"ซีเรียกำลังวุ่นวาย แต่พวกเขาไม่ใช่มิตรของเรา สหรัฐฯ ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย นี่ไม่ใช่สงครามของเรา ปล่อยให้มันจบไปตามทางของมัน อย่าเข้าไปยุ่ง!" ทรัมป์กล่าวผ่านทรูธโซเชียล (TruthSocial) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาเอง
ทรัมป์ระบุว่า เนื่องจากรัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีอัสซาด กำลังยุ่งอยู่กับสงครามในยูเครน ทำให้ "ดูเหมือนจะไม่สามารถยับยั้งการลุกฮือในซีเรียได้ ทั้งที่ซีเรียเป็นประเทศที่พวกเขาปกป้องมาหลายปี"
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเสริมว่า หากรัสเซียถูกบีบบังคับให้ถอนกำลังออกจากซีเรีย "อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขา" เพราะ "ซีเรียไม่เคยให้ผลประโยชน์อะไรมากมายกับรัสเซียอยู่แล้ว"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ถ้อยแถลงของทรัมป์สะท้อนให้เห็นการคัดค้านการประจำการของทหารสหรัฐฯ ราว 900 นายในซีเรีย ซึ่งส่วนใหญ่ประจำการอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยกองกำลังเหล่านี้ให้การสนับสนุนพันธมิตรที่นำโดยชาวเคิร์ดในซีเรีย เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาหรือกลุ่มไอเอส (IS) ฟื้นตัวอีกครั้ง
ทรัมป์เคยประกาศในปี 2561 ระหว่างดำรงตำแหน่งสมัยแรกว่า เขา ต้องการถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากซีเรีย เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มไอเอสใกล้จะพ่ายแพ้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เขาได้ชะลอการตัดสินใจดังกล่าว หลังจากที่ปรึกษาเตือนว่า การถอนกำลังออกไปอาจจะทำให้เกิดสุญญากาศที่อิหร่านและรัสเซียอาจเข้ามาแทนที่ได้