บล็อกเกอร์สงครามของรัสเซียออกมาเตือนว่า ฐานทัพยุทธศาสตร์สองแห่งในซีเรีย รวมถึงอิทธิพลของรัสเซียในตะวันออกกลาง กำลังเผชิญภัยคุกคามร้ายแรงจากการรุกคืบอย่างรวดเร็วของกลุ่มกบฏซีเรีย
ขณะนี้กองกำลังหลักของรัสเซียมุ่งปฏิบัติการในสงครามยูเครนเป็นหลัก โดยพยายามเร่งยึดพื้นที่เพิ่มเติมก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. ทำให้ขีดความสามารถของรัสเซียในการควบคุมสถานการณ์ในซีเรียลดลง เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่เคยแทรกแซงเพื่อสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การรุกคืบอย่างรวดเร็วของกลุ่มกบฏกำลังบ่อนทำลายอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ของรัสเซียในตะวันออกกลาง รวมถึงความสามารถในการแสดงแสนยานุภาพในภูมิภาค นอกจากนี้ยังอาจสร้างความอับอายแก่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่เคยอ้างว่าการแทรกแซงในซีเรียแสดงถึงศักยภาพของรัสเซียในการกำหนดเหตุการณ์ในดินแดนห่างไกลและแข่งขันกับชาติตะวันตกได้
บล็อกเกอร์สงคราม ซึ่งบางรายมีความใกล้ชิดกับกระทรวงกลาโหมรัสเซียและสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีกว่าทหาร เปิดเผยว่าภัยคุกคามเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้คือความปลอดภัยของฐานทัพอากาศฮไมมีม (Hmeimim) ในจังหวัดลาตาเกีย และฐานทัพเรือที่ท่าเรือตาร์ตุส (Tartus) ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงและเสบียงแห่งเดียวของรัสเซียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทั้งยังเป็นจุดส่งกำลังทหารรับจ้างเข้าออกแอฟริกา
ไรบาร์ (Rybar) บล็อกเกอร์ผู้สนับสนุนสงครามของรัสเซียที่มีความใกล้ชิดกับกระทรวงกลาโหม และมีผู้ติดตามกว่า 1.3 ล้านคนในเทเลแกรม ระบุว่า กองกำลังรัสเซียกำลังเผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรง
"ความเป็นจริงคือเราต้องเข้าใจว่ากลุ่มกบฏจะไม่หยุดการต่อสู้" ไรบาร์กล่าวเตือน "พวกเขาจะพยายามสร้างความพ่ายแพ้และความเสียหายให้มากที่สุดทั้งต่อชื่อเสียงและทางกายภาพต่อตัวแทนของรัสเซียในซีเรีย โดยเฉพาะการทำลายฐานทัพของเรา"