นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ขึ้นให้การต่อศาลเป็นครั้งแรกในวันนี้ เพื่อสู้คดีในข้อหาประพฤติมิชอบ โดยนายเนทันยาฮูกล่าวว่าเขาตกเป็นเหยื่อและการไล่ล่าของสื่อมวลชน อันเนื่องจากจุดยืนของเขาเกี่ยวกับความมั่นคงของอิสราเอล
ทั้งนี้ นายเนทันยาฮู วัย 75 ปี ถือเป็นนายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนแรกที่ถูกดำเนินคดีอาญาในขณะดำรงตำแหน่ง โดยอัยการสั่งฟ้องเขาในข้อหาผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจมูลค่าราว 500 ล้านดอลลาร์ต่อบริษัทเบเซก เทเลคอม เพื่อแลกกับการที่ช่องข่าวทางเว็บไซต์ที่อดีตประธานบริษัทดังกล่าวควบคุมอยู่จะต้องรายงานข่าวในเชิงส่งเสริมภาพลักษณ์ของนายเนทันยาฮูและภรรยา
นอกจากนี้ นายเนทันยาฮูยังถูกกล่าวหาว่าได้เจรจาทำข้อตกลงกับเจ้าของหนังสือพิมพ์เยดิออท อาห์โรนอท เพื่อให้รายงานข่าวในแง่ดีของตัวเขา โดยแลกกับการที่นายเนทันยาฮูจะทำการออกกฎหมายเพื่อสกัดการขยายตัวของหนังสือพิมพ์ที่เป็นคู่แข่งของเยดิออท อาห์โรนอท
อย่างไรก็ดี นายเนทันยาฮูได้กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และยืนยันว่าเขาไม่มีความผิด โดยนายเนทันยาฮูได้โจมตีสื่ออิสราเอลว่ามีแนวคิดเอียงซ้าย และกล่าวหาผู้สื่อข่าวว่าได้ไล่ล่าตัวเขาเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากเขามีนโยบายคัดค้านการตั้งรัฐปาเลสไตน์
"ผมเฝ้ารอมาเป็นเวลานานถึง 8 ปีเพื่อกล่าวความจริงในเวลานี้ ถ้าผมต้องการให้สื่อเสนอแต่ข่าวดี ๆ เกี่ยวกับตัวผม สิ่งที่ผมต้องทำก็คือการส่งสัญญาณสนับสนุนแนวทางการแก้ไขแบบ 2 รัฐ และหากผมมีหัวเอียงซ้าย ผมก็คงได้รับการยกย่องจากสื่อ" นายเนทันยาฮูกล่าว
นอกจากนี้ นายเนทันยาฮูยังได้ระบุว่าเขาเป็นผู้ปกป้องความมั่นคงของอิสราเอล โดยรับแรงกดดันจากชาติมหาอำนาจ รวมทั้งความมุ่งร้ายของสื่อในประเทศ