สำนักข่าวซีบีเอส นิวส์ (CBS News) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เชิญประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของเขาในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า
อย่างไรก็ตาม สถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับซีบีเอส นิวส์ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ว่า เขากับปธน.สีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างมาก และทั้งสองเพิ่งมีการติดต่อกันเมื่อไม่นานมานี้
ทรัมป์ได้แต่งตั้งนักการเมืองที่มีจุดยืนต่อต้านจีนให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลชุดใหม่ของเขา รวมถึงได้แต่งตั้งวุฒิสมาชิกมาร์โก รูบิโอ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศด้วย
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาดด้วยการประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% เมื่อเขาเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันแรก
ทรัมป์ระบุว่า เขาจะคงมาตรการการเก็บภาษีนี้ไว้จนกว่าเม็กซิโกและแคนาดาจะปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะเฟนทานิล (fentanyl) และผู้อพยพที่ข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมาย ส่วนจีนนั้น ทรัมป์กล่าวหาจีนว่าไม่ได้ดำเนินการที่เข้มงวดเพียงพอในการหยุดยั้งการไหลเวียนของยาเสพติดที่ลักลอบข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐฯ
หลังจากทรัมป์ประกาศมาตรการดังกล่าวได้ไม่นาน สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันได้ออกแถลงการณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกาหรือจีน ต่างก็ไม่มีประเทศใดเป็นผู้ชนะในสงครามการค้า
"เกี่ยวกับประเด็นที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนนั้น จีนเชื่อว่าโดยธรรมชาติแล้วความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ถือเป็นประโยชน์ร่วมกัน และไม่มีใครชนะในสงครามการค้าหรือสงครามการใช้มาตรการภาษีการค้า" หลิว เผิงอวี้ โฆษกสถานทูตจีนระบุในแถลงการณ์