ดัก ฟอร์ด มุขมนตรีรัฐออนแทริโอของแคนาดา ยืนยันอีกครั้งเมื่อวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) ว่า ออนแทรีโอ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของแคนาดา อาจระงับการจ่ายไฟฟ้าให้สหรัฐฯ หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าของแคนาดาในอัตราสูง
ฟอร์ดระบุว่า มาตรการดังกล่าวเป็นหนทางสุดท้าย โดยเขา "หวังว่าจะไม่ไปถึงจุดนั้น หวังว่าเราจะสามารถผ่านข้อตกลงการค้านี้ไปได้"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฟอร์ดและผู้นำระดับรัฐและดินแดนต่าง ๆ ได้ประชุมทางไกลกับนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ราว 90 นาทีเมื่อวันพุธ (11 ธ.ค.) เรื่องที่ทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีนำเข้า 25% กับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก เว้นเสียแต่ว่าทั้งสองชาติจะยุติปัญหาการเข้าเมืองผิดกฎหมายและการลักลอบขนส่งเฟนทานิลเข้าสู่ดินแดนสหรัฐฯ
ฟอร์ดกล่าวว่า "เราจะเดินหน้าเต็มที่โดยพิจารณาว่าสถานการณ์จะบานปลายถึงขั้นไหน เราพร้อมตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไปมิชิแกน นิวยอร์ก และวิสคอนซิน ผมไม่ต้องการให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่หน้าที่สำคัญที่สุดของผมคือการปกป้องรัฐออนแทริโอ ชาวออนแทริโอ และชาวแคนาดาทุกคน เพราะเราเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด"
สำนักงานสถิติแคนาดาระบุว่า รัฐออนแทรีโอส่งออกไฟฟ้า 13.9 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมงไปยังสหรัฐฯ ในปี 2566 หรือคิดเป็นราว 13% ของไฟฟ้าที่แคนาดาส่งให้ผู้ใช้ชาวอเมริกันทั้งหมด
ฟอร์ดกล่าวว่า แต่ละรัฐมีหน้าที่ตัดสินใจเองว่าจะดำเนินมาตรการในลักษณะเดียวกันนี้หรือไม่ โดยบรรดามุขมนตรีมีนัดประชุมกันอีกในวันอาทิตย์ (15 ธ.ค.) และตลอดสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า รัฐบาลแคนาดากำลังพิจารณาเก็บภาษีส่งออกสินค้าที่สหรัฐฯ ต้องการมาก เช่น น้ำมัน ยูเรเนียม และแร่โพแทช เพื่อยับยั้งไม่ให้ทรัมป์ขึ้นภาษี