ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซียเสนอให้ยกเลิกหนึ่งในสองการเลือกตั้งระดับชาติของประเทศ เพื่อลดงบประมาณ โดยสนับสนุนให้กลับไปใช้รูปแบบที่คล้ายกับยุคการปกครองแบบเผด็จการที่ดำเนินมายาวนานถึง 30 ปี
ปัจจุบัน อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตยใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก จัดการเลือกตั้งเป็น 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งระดับชาติและภูมิภาค ส่วนอีกครั้งเป็นการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ผู้ว่าราชการ และผู้ว่าการรัฐ
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ปธน.ปราโบโวเสนอให้ยกเลิกการเลือกตั้งครั้งที่สอง แล้วให้สภาท้องถิ่นเป็นผู้เลือกนายกเทศมนตรีและผู้ว่าราชการแทน ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณเพื่อนำไปพัฒนาโรงเรียนและจัดหาอาหารให้นักเรียนแทน
"เราต้องถามตัวเองว่าระบบการเลือกตั้งนี้คุ้มค่าหรือไม่ เสียเงินหลายล้านล้านในเวลาแค่หนึ่งถึงสองวัน" ปธน.ปราโบโวกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อเสนอที่ให้สภาท้องถิ่นเป็นผู้เลือกผู้นำท้องถิ่นเองนี้ คล้ายคลึงกับยุค "ระเบียบใหม่" (New Order) ในสมัยของซูฮาร์โต อดีตผู้นำเผด็จการ ซึ่งเป็นอดีตพ่อตาของเขา และเป็นช่วงที่ปราโบโวดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ก่อนจะถูกปลดจากกองทัพท่ามกลางข้อกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชน
ด้านโยเอส ซี. เคนาวาส นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่า การเลือกตั้งระดับภูมิภาคยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้ประชาชนมั่นใจว่าผู้นำท้องถิ่นจะรับผิดชอบต่อการทำงานของตนเอง โดยเสริมว่า "แนวคิดของปราโบโวไม่สมเหตุสมผลเลย เป็นการคิดลัดง่ายเกินไป นี่อาจเป็นการถอยหลังของประชาธิปไตยอินโดนีเซีย"