ฮัน ด็อกซู รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศพันธมิตร และพยายามฟื้นฟูเสถียรภาพของตลาดการเงิน หลังปธน.ยุน ซอกยอล ถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง และถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ยุนพยายามประกาศกฎอัยการศึก
ฮันได้สนทนาทางโทรศัพท์กับปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ตามการเปิดเผยของทำเนียบขาวและสำนักปธน.ของฮัน
"เกาหลีใต้จะยังคงดำเนินนโยบายด้านการต่างประเทศและความมั่นคงต่อไปอย่างราบรื่น และจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้-สหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง" ฮันกล่าว ตามแถลงการณ์จากสำนักปธน.เกาหลีใต้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เพื่อพยายามสร้างเสถียรภาพให้กับประเทศ พรรคฝ่ายค้านหลักของเกาหลีใต้ประกาศว่าจะไม่ยื่นถอดถอนฮัน จากการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจประกาศกฎอัยการศึกของยุน เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา
"เนื่องจากนายกรัฐมนตรี (ฮัน) ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีแล้ว และหากมีการยื่นถอดถอนมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในการบริหารประเทศ เราจึงตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินการยื่นถอดถอน" อี แจ-มยอง หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย (พรรคฝ่ายค้านหลัก) กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ฮัน ซึ่งเป็นเทคโนแครตที่มีประสบการณ์โชกโชนและได้รับการแต่งตั้งจากยุนให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ นั้น ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรักษาการปธน.ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในระหว่างที่คดีของยุนกำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
ปธน.ไบเดนได้กล่าวกับฮันว่า ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐฯ -เกาหลีใต้จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และสหรัฐฯ จะร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์ รวมถึงความร่วมมือไตรภาคีกับญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำนักปธน.ของฮันระบุ
ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ปธน.สหรัฐฯ "แสดงความชื่นชมต่อความเข้มแข็งของระบอบประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมใน ROK และยืนยันถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของสหรัฐฯ ต่อประชาชน ROK" โดยใช้ตัวย่อ ROK ซึ่งหมายถึงชื่ออย่างเป็นทางการของเกาหลีใต้คือ สาธารณรัฐเกาหลี
"ประธานาธิบดีไบเดนแสดงความมั่นใจว่า ความร่วมมือระหว่างสองประเทศจะเป็นเสาหลักของสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ในระหว่างที่ฮันดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดี"
ทั้งนี้ ฮันได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีและสภาความมั่นคงแห่งชาติทันทีหลังการลงมติถอดถอนเมื่อวันเสาร์ (14 ธ.ค.) และให้คำมั่นว่าจะรักษาความพร้อมทางทหารเพื่อป้องกันการละเมิดความมั่นคงของชาติ