ชาวคริสต์ในซีเรียเข้าร่วมพิธีทางศาสนาในวันอาทิตย์ตามปกติเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่การโค่นอำนาจประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการทดสอบคำมั่นสัญญาที่บรรดาผู้ปกครองอิสลามกลุ่มใหม่ได้ให้ไว้ว่า สิทธิของชนกลุ่มน้อยจะได้รับการคุ้มครอง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) (กลุ่มกบฏหลักในซีเรีย) โค่นอำนาจได้สำเร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางกลุ่มก็พยายามสร้างความเชื่อมั่นให้กับชนกลุ่มน้อยในซีเรียว่าวิถีชีวิตของพวกเขาจะไม่เผชิญกับความเสี่ยง
ทั้งนี้ ก่อนที่อัสซาดจะถูกโค่นอำนาจ กลุ่มศาสนาส่วนน้อย รวมถึงคริสเตียน ต่างนับถือศาสนาได้อย่างเสรี แม้จะมีบางกลุ่มที่ยังคงกังวลกับการจัดตั้งรัฐบาลอิสลาม
ท้องถนนในเขตบาบตูมาของกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ซึ่งมีชาวคริสต์อาศัยอยู่หนาแน่น เต็มไปด้วยผู้ที่เดินทางกลับมาจากการนมัสการที่โบสถ์ในเช้าวันอาทิตย์ (15 ธ.ค.) แม้บางคนก็แสดงท่าทีระมัดระวัง โดยผู้อยู่อาศัยในท้องที่รายหนึ่งกล่าวว่า "เรากลัว เรายังคงไม่หายกลัว" หลังเข้าร่วมพิธีมิสซาที่โบสถ์คาทอลิกกรีก เมลไคท์ (Greek Melkite Catholic church)
ผู้อยู่อาศัยรายดังกล่าวระบุว่า เธอไม่ค่อยออกจากบ้านนับตั้งแต่ที่กลุ่ม HTS เข้ายึดอำนาจเมื่อสัปดาห์ก่อน แม้เธอจะบอกว่าไม่มีอะไรน่ากังวลเกิดขึ้นก็ตาม และเสริมว่า "หลายอย่างยังคงไม่ชัดเจน"
ขณะเดียวกัน ลินา อัคราส เลขาธิการสภาเขตของอาสนวิหารออร์โธดอกซ์กรีก เซนต์จอร์จ (St George Greek Orthodox Cathedral) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองชายฝั่งลาตาเกีย อันเป็นฐานที่มั่นของอัสซาดมาอย่างยาวนาน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ชาวคริสต์ "รู้สึกสบายใจ" ภายใต้การปกครองของเขาในแง่ของเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่พวกเขาเพียงต้องการเพียงใช้ชีวิตอย่างสันติและสามัคคีเท่านั้น