ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนจำเป็นต้อง "หันมีดเข้าหาตัวเอง" เพื่อกำจัดปัญหาการไร้ระเบียบวินัยภายในพรรคฯ รวมถึงปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน นับเป็นการส่งสัญญาณครั้งใหม่ในการเดินหน้าปราบปรามเจ้าหน้าที่รัฐที่ประพฤติมิชอบ รวมไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการชักนำให้เกิดการทุจริต
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่ปธน.สี จิ้นผิง ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ได้มีการเดินหน้าปราบปรามการทุจริตในหมู่สมาชิกพรรคฯ อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น "เสือ" ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ทุจริต หรือ "แมลงวัน" ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายรัฐ
แม้จะปราบปรามอย่างหนัก แต่พรรคฯ ยังคงเผชิญกับปัญหาการทุจริต โดยเฉพาะในกองทัพ เช่น กรณีรัฐมนตรีกลาโหม 2 คน ถูกขับออกจากพรรคฯ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะ "ละเมิดวินัยร้ายแรง" ซึ่งเป็นคำสุภาพของจีนที่ใช้เรียกการคอร์รัปชัน
ในสุนทรพจน์ที่เผยแพร่ผ่านทางวารสารฉิวซื่อ ซึ่งเป็นนิตยสารหลักของพรรคฯ ในวันนี้ (16 ธ.ค.) ปธน.สี จิ้นผิง ได้เตือนว่า พรรคฯ ต้องเด็ดขาดกับทุกกลุ่มผลประโยชน์ องค์กรที่ใช้อำนาจในทางมิชอบ หรือกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่หาผลประโยชน์หรือชักจูงสมาชิกพรรคฯ ให้ทุจริต
"เมื่อสถานการณ์และภารกิจที่พรรคฯ เผชิญเปลี่ยนแปลงไป ย่อมเกิดความขัดแย้งและปัญหาภายในพรรคฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" ปธน.สีกล่าว "เราต้องกล้าหันมีดเข้าหาตัวเอง ขจัดอิทธิพลด้านลบเหล่านี้ให้ทันท่วงที เพื่อให้พรรคฯ เต็มเปี่ยมด้วยพลังและมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ"
คำกล่าวที่ว่า "หันมีดเข้าหาตัวเอง" เป็นส่วนหนึ่งของสุนทรพจน์ที่ปธน.สี จิ้นผิง กล่าวในการประชุมใหญ่ร่วมกับหน่วยงานปราบปรามการทุจริตของพรรคฯ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. แต่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะมาก่อน
เนื้อหาที่คัดลอกมาและเผยแพร่ในวันนี้ชี้ให้เห็นถึงการเดินหน้าปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจังและกว้างขวางขึ้น เพื่อปลูกฝังระเบียบวินัยและกวาดล้างเจ้าหน้าที่ที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน รวมถึงผู้ที่ชักนำให้ผู้อื่นกระทำความผิด
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงกลาโหมจีนเปิดเผยว่า พลเรือเอกนายหนึ่งที่เคยปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมาธิการทหารกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานบัญชาการทางทหารระดับสูงสุดของจีน กำลังถูกสอบสวนในข้อหา "ละเมิดวินัยร้ายแรง"
คณะกรรมการกลางเพื่อการตรวจสอบวินัยของพรรคฯ เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว มีเจ้าหน้าที่ของพรรคฯ ราว 610,000 คน ถูกลงโทษฐานละเมิดวินัยพรรคฯ ซึ่งในจำนวนนี้ 49 คนเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่ารัฐมนตรีช่วยหรือผู้ว่าการมณฑล