รัสเซียเปิดฉากโจมตีระบบพลังงานและเมืองทางภาคตะวันออกของยูเครนด้วยขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธนำวิถีในเช้าวันนี้ (25 ธ.ค.) ตามคำแถลงของรัฐมนตรีพลังงานยูเครนและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
โอเล็ก ซินีฮูบอฟ ผู้ว่าการแคว้นคาร์คิฟเปิดเผยว่า การโจมตีด้วยขีปนาวุธที่เมืองคาร์คิฟทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนในเช้าวันนี้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 6 ราย
กองทัพอากาศยูเครนยืนยันว่าคาร์คิฟถูกถล่มด้วยขีปนาวุธนำวิถี ด้านซินีฮูบอฟระบุผ่านแอปเทเลแกรมว่า "โครงสร้างพื้นฐานพลเรือนที่ไม่ใช่ที่พักอาศัยได้รับความเสียหาย"
ขณะเดียวกัน เซอร์ฮีย์ ลีซัค ผู้ว่าการแคว้นดนีโปรเปตรอฟสก์ โพสต์ในเทเลแกรมว่า "กองทัพรัสเซียเปิดฉากถล่มแคว้นดนีโปรอย่างหนักตั้งแต่เช้า โดยมุ่งทำลายระบบพลังงานทั้งแคว้น"
เยอรมัน กาลุชเชนโก รัฐมนตรีพลังงานยูเครน โพสต์เฟซบุ๊กว่า รัสเซีย "กำลังถล่มภาคพลังงานอย่างหนัก" และผู้ควบคุมระบบส่งกำลังไฟฟ้าต้องจำกัดการจ่ายไฟเพื่อบรรเทาผลกระทบ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน กองทัพยูเครนประกาศเตือนภัยทางอากาศทั่วประเทศ หลังรัสเซียปล่อยขีปนาวุธร่อน
ดีเท็ก (DTEK) บริษัทพลังงานเอกชนยักษ์ใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่าโรงไฟฟ้าของบริษัทถูกโจมตี ส่งผลให้อุปกรณ์ไฟฟ้า "เสียหายหนัก"
"นี่คือการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งที่ 13 ต่อภาคพลังงานยูเครนในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 10 ที่โรงงานของบริษัทถูกโจมตี" ดีเท็กระบุในเทเลแกรม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและกองทัพอากาศรายงานว่า พบขีปนาวุธบินผ่านภูมิภาคตะวันออก กลาง ใต้ และตะวันตก