ทนายความของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ที่ถูกสอบสวนข้อหากบฏแถลงในวันนี้ (26 ธ.ค.) ว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกช่วงสั้น ๆ เมื่อต้นเดือนนี้เป็นเพียงการส่งสัญญาณเตือนถึงการที่พรรคฝ่ายค้านบิดเบือนกระบวนการประชาธิปไตย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คิม ยงฮยอน อดีตรมต.กลาโหมเป็นเจ้าหน้าที่คนแรกที่ถูกจับกุมและมีแนวโน้มจะเป็นรายแรกที่ถูกดำเนินคดี ในฐานะตัวการสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังการที่ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ประกาศกฎอัยการศึกแบบฉับพลันเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.
ในการแถลงข่าววันนี้ ทนายความทั้งสองของคิมย้ำเหตุผลที่ปธน.ยุนเคยให้ไว้หลังประกาศกฎอัยการศึกซึ่งถูกยกเลิกไปในเวลาเพียง 6 ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นการตัดสินใจที่จำเป็นเพื่อกำจัดกลุ่มต่อต้านรัฐที่คุกคามระบอบประชาธิปไตยของประเทศ
"กฎอัยการศึกในครั้งนี้เป็นเพียงสัญญาณเตือน และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือไม่มีผู้เสียชีวิต อีกทั้งทหารก็ได้ถอนกำลังอย่างเป็นระเบียบหลังการยกเลิก" ทนายยู ซึงซู กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ทนายยูกล่าวด้วยว่า การที่ปธน.ยุนยับยั้งความพยายามของคิมในการประกาศเคอร์ฟิวภายใต้กฎอัยการศึกเป็นหลักฐานว่า ปธน.ยุนไม่มีเจตนาสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน
รี ฮาซัง ทนายความอีกคนระบุว่า ข้อกล่าวหากบฏต่อคิมและปธน.ยุนนั้น "น่าขัน" และละเลยอำนาจตามรัฐธรรมนูญของปธน.ในการประกาศกฎอัยการศึกยามจำเป็น
คิมซึ่งพยายามฆ่าตัวตายระหว่างถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. เคยกล่าวว่า ตนยอมรับผิดชอบต่อความวิตกกังวลที่เกิดจากการประกาศกฎอัยการศึก แต่ชี้ว่า การสอบสวนตนและปธน.ยุนนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ ปธน.ยุนถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. โดยมีสมาชิกบางส่วนจากพรรคพลังประชาชนของปธน.ยุนร่วมลงคะแนนด้วย ขณะนี้ ปธน.ยุนต้องเผชิญการไต่สวนในศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะชี้ขาดว่าจะให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งหรือถอดถอนจากตำแหน่ง
เมื่อวันพุธ (25 ธ.ค.) ปธน.ยุนไม่ตอบสนองต่อหมายเรียกล่าสุดให้เข้าให้ปากคำในการสอบสวนคดีอาญาอีกคดีหนึ่ง และไม่ส่งคำชี้แจงทางกฎหมายตามที่ศาลรัฐธรรมนูญร้องขอ ทั้งที่ศาลกำหนดนัดไต่สวนครั้งแรกในวันศุกร์นี้ (27 ธ.ค.)
การไม่ให้ความร่วมมือซ้ำแล้วซ้ำเล่าของปธน.ยุนได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และทำให้ฝ่ายค้านเรียกร้องให้มีการจับกุมตัวยุน