คณะที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดียุน ซอกยอลแห่งเกาหลีใต้ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการถอดถอนออกจากตำแหน่ง ได้ยื่นหนังสือลาออกพร้อมกันยกชุดเมื่อวันพุธ (1 ม.ค.) หลังจากทำเนียบประธานาธิบดีแสดงความไม่พอใจที่ ชเว ซังม็อก รักษาการปธน.อนุมัติการแต่งตั้งผู้พิพากษาใหม่ 2 คน เข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นศาลที่จะมีคำตัดสินชี้ชะตาปธน.ยุน
แถลงการณ์จากทำเนียบประธานาธิบดีระบุว่า ผู้ที่ยื่นหนังสือลาออกประกอบด้วยหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าฝ่ายนโยบาย ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ที่ปรึกษาพิเศษด้านการต่างประเทศและความมั่นคง รวมถึงเลขานุการอาวุโสทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม รักษาการปธน.ชเวประกาศปฏิเสธที่จะอนุมัติการลาออก โดยให้เหตุผลว่าภารกิจสำคัญอันดับแรกในขณะนี้คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพของประเทศ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบประธานาธิบดีรายหนึ่งเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ คณะที่ปรึกษาชุดดังกล่าวได้พยายามยื่นหนังสือลาออกมาแล้วหลายครั้ง นับตั้งแต่ความพยายามประกาศกฎอัยการศึกของปธน. ยุนประสบความล้มเหลวเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ
เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาคณะเลขานุการอาวุโสยังคงปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือชเวนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งรักษาการปธน. ขณะที่เจ้าหน้าที่อีก 2 คนชี้แจงว่า คณะที่ปรึกษาชุดนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินในแต่ละวัน แต่มีหน้าที่รายงานตรงต่อรักษาการปธน.ชเว และเข้าร่วมการประชุมตามความจำเป็นเท่านั้น
การยื่นหนังสือลาออกครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่รักษาการปธน.ชเวอนุมัติการแต่งตั้งผู้พิพากษาใหม่ 2 คน เข้าดำรงตำแหน่งในศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำลังพิจารณาคดีถอดถอนปธน.ยุน ส่งผลให้ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีองค์คณะผู้พิพากษา 8 คน จากทั้งหมด 9 คน โดยการพิจารณาคดีของปธน.ยุนจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 6 เสียง
ด้านพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของปธน.ยุน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าวของรักษาการปธน.ชเว ว่าเป็นการกระทำที่ "ดันทุรัง" และขาดการปรึกษาหารืออย่างเพียงพอ
อนึ่ง ชเว ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เข้ารับตำแหน่งรักษาการปธน.เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ธ.ค.) หลังจากที่นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อกซู ซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาการปธน.แทนนับตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ปธน.ยุน ถูกสั่งระงับการปฏิบัติงานนั้น ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง
ขณะนี้ปธน.ยุนอยู่ระหว่างถูกสอบสวนในข้อหานำการก่อกบฏ และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (31 ธ.ค.) ศาลแขวงกรุงโซลได้อนุมัติการออกหมายจับ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ที่มีการออกหมายจับปธน.ที่ยังคงดำรงตำแหน่ง