โมฮัมมัด รอสลี อับดุลเลาะห์ ผู้อำนวยการใหญ่หน่วยยามฝั่งมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (4 ม.ค.) ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่หน่วยยามชายฝั่งของมาเลเซียได้ควบคุมเรือ 2 ลำที่บรรทุกผู้อพยพชาวเมียนมาไร้เอกสารเกือบ 300 คน และผลักดันออกไปจากน่านน้ำของตน โดยขณะที่พบนั้น ผู้อพยพอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าเนื่องจากขาดอาหารและน้ำ
หน่วยยามฝั่งระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้แจกอาหารและน้ำดื่มสะอาดให้กับผู้อพยพหลังจากที่พบเรือเหล่านี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ม.ค.) ห่างจากชายฝั่งเกาะลังกาวีไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 2 ไมล์ทะเล
ผู้อำนวยการใหญ่หน่วยยามฝั่งมาเลเซียระบุว่า "เรากำลังร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทย เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเรือทั้ง 2 ลำดังกล่าว"
สำนักข่าวนิกเกอิรายงานว่า หน่วยยามชายฝั่งไม่ได้ระบุว่า ผู้อพยพเหล่านี้เป็นชาวโรฮิงญา (หรือโรฮีนจา) หรือไม่ โดยโรฮิงญาเป็นชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอิสลาม และมักหลบหนีออกจากเมียนมาซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตำรวจมาเลเซียได้ควบคุมตัวผู้อพยพชาวเมียนมาที่ไม่มีเอกสาร 196 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 71 คน และผู้หญิง 57 คน หลังจากเรือของพวกเขามาถึงชายหาดในลังกาวี
ตำรวจเชื่อว่า ผู้อพยพทั้งหมดเป็นชาวโรฮิงญา โดยผู้อพยพทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัวได้ถูกนำตัวไปทำการบันทึกข้อมูลและตรวจสุขภาพแล้ว
นับเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ชาวโรฮิงญาจำนวนมากขึ้นเรือไม้เก่า ๆ เพื่อพยายามเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบังกลาเทศ และรวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะเดินทางในช่วงทะเลสงบตั้งแต่เดือนต.ค.-เม.ย.