สภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้ให้การรับรองอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (6 ม.ค.) ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2567
สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ประชุมร่วมกันในช่วงเที่ยงของวันจันทร์ เพื่อรับรองชัยชนะของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการยืนยันผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2567 โดยการประชุมสภาคองเกรสวาระนี้มีรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตที่พ่ายแพ้ให้กับทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แฮร์ริสได้ประกาศผลคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งของแต่ละรัฐ และเขตโคลัมเบีย (วอชิงตัน ดีซี) โดยมีสมาชิกวุฒิสภาสองคนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสองคนผลัดกันประกาศผลคะแนน
ทั้งนี้ ผลคะแนนรอบสุดท้ายจากคณะผู้เลือกตั้งระบุว่า ทรัมป์ได้รับคะแนนเสียง 312 คะแนน ซึ่งเกินกว่า 270 คะแนนที่จำเป็นต้องได้เพื่อที่จะชนะในการเลือกตั้ง ขณะที่แฮร์ริสได้รับคะแนนเสียง 226 คะแนน
ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นวาระที่สองของเขาแบบไม่ต่อเนื่อง
โดยปกติแล้ว การนับและรับรองคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งโดยสภาคองเกรสถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ แต่ในวันเดียวกันนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ได้บุกเข้าไปก่อเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในระหว่างที่จะมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของโจ ไบเดน
หลังจากที่ทรัมป์พ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี 2563 เขาได้กล่าวอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งเป็นวงกว้างในครั้งนั้น ส่งผลให้ในวันที่ 6 ม.ค. 2564 กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์จำนวนมากได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเพื่อพยายามขัดขวางไม่ให้รัฐสภารับรองผลการเลือกตั้ง โดยการจลาจลครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คนและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายร้อยนาย