รัฐบาลทหารเมียนมาออกกฎหมายปราบปรามข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตและกำหนดบทลงโทษที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) ที่ไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจประจำวันมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
กฎหมายความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค. กำหนดให้บุคคลที่มีความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลที่ "ไม่เหมาะสมต่อการรับชมของสาธารณะ" มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกินหกเดือน
เว็บไซต์นิกเกอิเอเชียรายงานว่า VPN ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์กิจกรรมออนไลน์ สามารถเข้าถึงโซเชียลมีเดียบางแพลตฟอร์ม เช่น เฟซบุ๊ก ตลอดจนเว็บไซต์ต่อต้านกองทัพซึ่งถูกรัฐบาลปิดกั้นการเข้าถึง ชาวเมียนมาและชาวต่างชาติจึงต่างกังวลว่า กฎหมายดังกล่าวจะลงโทษผู้ที่ใช้งาน VPN
แม้กฎหมายใหม่นี้ไม่ได้กำหนดบทลงโทษที่ชัดเจนต่อผู้ใช้งาน แต่มีบทบัญญัติที่อาจตีความได้ว่ามีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกินสองปี ขณะเดียวกันกฎหมายกำหนดให้ต้องขออนุญาตก่อนจึงจะสามารถให้บริการ VPN ได้ และผู้ที่ให้บริการ VPN โดยไม่ได้รับอนุญาตอาจต้องโทษจำคุกหรือโทษปรับ
เจ้าหน้าที่กองทัพคนหนึ่งบอกกับนิกเกอิเอเชียว่า รัฐบาลจะ "ไม่ควบคุมตัวผู้ใช้งาน VPN ตราบใดที่พวกเขาไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ" ซึ่งความเคลื่อนไหวที่อาจเกิดขึ้นในการออกกฎหมายห้ามใช้งาน VPN นี้ สร้างความวิตกกังวลในหมู่บริษัทต่าง ๆ ที่ลงทุนในเมียนมาและชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศ