นายพลโจเซฟ อูน ผู้บัญชาการกองทัพบกเลบานอน ได้เดินทางเข้าสู่รัฐสภาเลบานอนในวันนี้ หลังได้รับเลือกจากรัฐสภาให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของเลบานอน ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดภาวะสุญญากาศทางการเมืองในเลบานอนเป็นเวลานานกว่า 2 ปี
หลังจากที่ได้ทำพิธีสาบานตนต่อรัฐสภา นายพลอูนกล่าวถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองในเลบานอน และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิรูประบบตุลาการและนิติบัญญัติ
"จะไม่มีการแทรกแซงระบบตุลาการ ขณะที่อาชญากรและเจ้าหน้าที่ที่ทำการทุจริตจะไม่ได้รับเอกสิทธิคุ้มครองอีกต่อไป จะไม่มีที่สำหรับมาเฟีย ขบวนการค้ายาเสพติดหรือฟอกเงินในเลบานอน" นายพลอูนกล่าว
ด้านนางลิซ่า จอห์นสัน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเลบานอน แสดงความยินดีต่อการที่นายพลอูนได้รับเลือกจากรัฐสภาเลบานอนให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ในวันนี้
ทั้งนี้ นางจอห์นสันและผู้แทนทางการทูตของหลายประเทศได้เข้าร่วมการประชุมในรัฐสภาวันนี้เพื่อเป็นสักขีพยานในการเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของเลบานอน
นายพลอูนได้รับเสียงสนับสนุนในรัฐสภาจำนวน 99 เสียง ซึ่งเพียงพอต่อการเป็นผู้ชนะในการลงมติรอบ 2 ซึ่งใช้เกณฑ์ระบุว่า ผู้ชนะจะต้องได้รับคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 65 เสียง หรือเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน 128 เสียงในรัฐสภา
ในการลงมติรอบแรก นายพลอูนได้รับเสียงสนับสนุนเพียง 71 เสียง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเป็นผู้ชนะในการลงมติรอบแรก ซึ่งใช้เกณฑ์ระบุว่า ผู้ชนะจะต้องได้รับคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 86 เสียง หรือจำนวน 2 ใน 3 ของรัฐสภา
การที่นายพลอูน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเลบานอนคนใหม่ในวันนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนดุลอำนาจในเลบานอนและตะวันออกกลาง จากเดิมที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีอิหร่านหนุนหลังได้ครองอำนาจมาอย่างยาวนานในเลบานอน
นอกจากนี้ คาดว่าซาอุดีอาระเบียจะกลับมามีบทบาทในเลบานอน หลังจากที่ถูกบดบังจากการครองอำนาจของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และอิหร่าน