ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ เห็นพ้องกันในวันนี้ (13 ม.ค.) ที่จะกระชับความร่วมมือไตรภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อรับประกันความมั่นคงทางทะเลและเศรษฐกิจ ตลอดจนสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่คงทนในการประชุมสุดยอดร่วมกัน
ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า เขาต้องการให้ทั้งสามชาติร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อทำให้อินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างเกิดขึ้นจริง หลังจากที่ได้หารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์
อิชิบะกล่าวกับนักข่าวภายหลังการประชุมไตรภาคีว่า "เรายืนยันว่า มีความคืบหน้าในการรับประกันความมั่นคงทางทะเลและเศรษฐกิจ และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่คงทน และเห็นพ้องกันว่าจะร่วมงานกันอย่างต่อเนื่องต่อไป"
อิชิบะกล่าวว่า "เราจะพยายามมากขึ้นเพื่อให้ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เปิดกว้างเกิดขึ้นจริงบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม" และชี้ถึงสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงโดยรอบญี่ปุ่นที่ "รุนแรงและซับซ้อน" มากขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทั้ง 3 ชาติได้ประชุมสุดยอดร่วมกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เมื่อเดือนเม.ย. 2567 โดยมีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการอ้างอธิปไตยของจีนในภูมิภาค
นอกจากนี้ อิชิบะยังกล่าวระหว่างการหารืออีกว่า เขาได้เรียกร้องให้ปธน.ไบเดนแก้ไข "ข้อกังวลที่สำคัญ" ในแวดวงธุรกิจญี่ปุ่นและสหรัฐฯ หลังจากที่ปธน.ไบเดนตัดสินใจสกัดกั้นการเข้าซื้อกิจการบริษัทยูเอส สตีล (U.S. Steel) โดยนิปปอน สตีล (Nippon Steel) ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
แหล่งข่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า อิชิบะกำลังพิจารณาเดินทางเยือนสหรัฐฯ ก่อนช่วงกลางเดือนก.พ. เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดเข้ารับตำแหน่งปธน.แทนไบเดนในวันที่ 20 ม.ค.
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลของเขากำลัง "จัดเตรียมการขั้นสุดท้าย" สำหรับการพบปะกับทรัมป์