ในวันนี้ (14 ม.ค.) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานของแจ็ค สมิธ อัยการพิเศษเกี่ยวกับความพยายามของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการล้มผลการเลือกตั้งปี 2563 นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของสมิธ หลังจากคดีอาญาครั้งประวัติศาสตร์ของเขาต้องยุติลงด้วยชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
เป็นที่คาดหมายว่ารายงานฉบับนี้จะเปิดเผยรายละเอียดการตั้งข้อหาทรัมป์ 4 กระทงที่กล่าวหาว่า ว่าที่ปธน.สหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันผู้นี้วางแผนขัดขวางการรวบรวมและรับรองคะแนนเสียง หลังพ่ายแพ้ต่อโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งปี 2563
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รายงานส่วนที่สองระบุถึงคดีที่สมิธกล่าวหาว่า ทรัมป์ครอบครองเอกสารลับด้านความมั่นคงโดยมิชอบ หลังพ้นตำแหน่งจากทำเนียบขาวในปี 2564 โดยกระทรวงยุติธรรมให้คำมั่นว่าจะไม่เปิดเผยเนื้อหาส่วนนี้ต่อสาธารณะ ระหว่างที่การดำเนินคดีกับพวกของทรัมป์อีกสองรายยังไม่สิ้นสุด
สมิธซึ่งลาออกจากกระทรวงยุติธรรมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ถอนฟ้องคดีทั้งสองที่ดำเนินคดีกับทรัมป์ภายหลังที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งปีที่แล้ว โดยอ้างธรรมเนียมปฏิบัติของกระทรวงฯ ที่ห้ามฟ้องร้องประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ทำให้คดีทั้งสองไม่ถึงชั้นศาล
ทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมโจมตีสมิธว่า "วิปลาส" และกล่าวหาว่าคดีเหล่านี้มีแรงจูงใจทางการเมือง หวังทำลายแคมเปญหาเสียงและความเคลื่อนไหวทางการเมืองของเขา
ทรัมป์และอดีตจำเลยร่วมอีกสองรายในคดีเอกสารลับพยายามคัดค้านการเผยแพร่รายงานนี้ ก่อนที่ทรัมป์จะกลับเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. แต่ศาลปฏิเสธคำร้องที่จะระงับการเผยแพร่โดยสิ้นเชิง
ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ เอลีน แคนนอน ผู้ดูแลคดีเอกสารลับ ได้สั่งให้กระทรวงยุติธรรมชะลอแผนที่จะให้สมาชิกคองเกรสระดับอาวุโสบางรายตรวจสอบรายงานส่วนเอกสารลับเป็นการภายใน
ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า รายงานส่วนที่เปิดเผยต่อสาธารณะจะมีข้อมูลใหม่มากน้อยเพียงใด
อัยการได้เปิดเผยรายละเอียดคดีที่ฟ้องทรัมป์ในเอกสารศาลก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งเมื่อปี 2565 คณะกรรมาธิการสภาคองเกรสก็ได้เผยแพร่รายงาน 700 หน้าว่าด้วยการกระทำของทรัมป์หลังการเลือกตั้งปี 2563
การสอบสวนทั้งสองคดีสรุปว่า ทรัมป์เผยแพร่ข้อกล่าวหาเท็จเรื่องการทุจริตเลือกตั้งอย่างกว้างขวางหลังการเลือกตั้งปี 2563 กดดันสมาชิกสภานิติบัญญัติมลรัฐไม่ให้รับรองผลคะแนน และพยายามใช้คณะผู้เลือกตั้งปลอมที่สัญญาว่าจะลงคะแนนให้ทรัมป์ในมลรัฐที่ไบเดนชนะ เพื่อสกัดไม่ให้สภาคองเกรสรับรองชัยชนะของไบเดน
ความพยายามดังกล่าวนำไปสู่เหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 เมื่อฝูงชนที่สนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปในรัฐสภา หมายขัดขวางไม่ให้สมาชิกรัฐสภารับรองผลการเลือกตั้ง แต่ไม่สำเร็จ
คดีของสมิธเผชิญอุปสรรคทางกฎหมายแม้ก่อนทรัมป์จะชนะเลือกตั้ง โดยคดีถูกระงับหลายเดือนระหว่างที่ทรัมป์อ้างว่าไม่สามารถถูกดำเนินคดีจากการกระทำในฐานะประธานาธิบดี
ศาลฎีกาสหรัฐฯ ซึ่งมีเสียงข้างมากเป็นผู้พิพากษาฝ่ายอนุรักษนิยม เห็นด้วยกับทรัมป์เป็นส่วนใหญ่ โดยให้ความคุ้มกันอดีตประธานาธิบดีจากการถูกดำเนินคดีอาญาอย่างกว้างขวาง