มาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในปีนี้ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะหวนคืนทำเนียบขาวว่า มาเลเซียหวังว่า เหล่าผู้นำจากประเทศคู่ค้า ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ จะให้ความสนใจกับบทบาทที่สำคัญของภูมิภาคนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งผู้นำสมัยที่สองในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ แสดงความสนใจต่อความเป็นพหุภาคีน้อยมากในการดำรงตำแหน่งสมัยแรก ทั้งยังปฏิเสธการประชุมสุดยอดอาเซียนร่วมกับประเทศพันธมิตรด้วย
โมฮัมหมัด ฮะซัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวในการประชุมรวมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ณ เกาะลังกาวี เมื่อวานนี้ว่า ภูมิภาคอาเซียน "ได้กลายเป็นแหล่งรวมการแข่งขันของมหาอำนาจ" เนื่องจาก "ศักยภาพมหาศาล ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ได้เปรียบ และน้ำหนักรวมทางเศรษฐกิจ"
ฮะซันกล่าวเสริมว่า "เราหวังว่าผู้นำคนใหม่ของประเทศคู่เจรจาของเราจะตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญยิ่งขึ้นของเรา และร่วมมือกับเราทางการทูตด้วยใจที่เปิดกว้าง"
ทั้งนี้ ประเด็นระดับภูมิภาคอื่น ๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นหารือในการประชุมดังกล่าวยังรวมถึงความขัดแย้งในเมียนมา ซึ่งเกิดขึ้นนับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อเดือนก.พ. 2564 เพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซาน ซูจี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคนจากการประท้วงต่อต้านการปกครองของกองทัพจนลุกลามบานปลายสู่การจับอาวุธขึ้นต่อสู้
กลุ่มอาเซียนประกอบด้วยบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ส่วนติมอร์ตะวันออกเข้าร่วมการประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ ขณะที่กำลังรอคอยการรับรองให้เป็นสมาชิกเต็มตัว