รัฐบาลเกาหลีใต้มีคำสั่งให้สายการบินโลว์คอสต์ลดชั่วโมงบินและเพิ่มจำนวนช่างซ่อมบำรุง เพื่อคุมเข้มความปลอดภัยหลังเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ไถลรันเวย์เมื่อเดือนที่แล้ว
ในการประชุมวันนี้ (23 ม.ค.) กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ได้กำชับให้ซีอีโอของสายการบินโลว์คอสต์ 9 แห่งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมกับแถลงหลังการประชุมว่า "ไม่มีบริษัทใดอยู่รอดได้หากมุ่งลดต้นทุนอย่างเดียว"
กระทรวงคมนาคมระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้มงวดในการตรวจสอบชั่วโมงบิน จำนวนช่างซ่อมบำรุง ขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงคุมเข้มการออกใบอนุญาตจัดซื้อเครื่องบินใหม่และเปิดเส้นทางบินใหม่ พร้อมเตือนว่าสายการบินใดที่ฝ่าฝืนระเบียบความปลอดภัยใหม่จะถูกระงับใบอนุญาตประกอบกิจการการบิน พร้อมทั้งจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เกาหลีใต้ประกาศมาตรการที่เข้มงวดขึ้นหลังเกิดเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ไถลรันเวย์เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 179 ราย จากผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 181 คน นับเป็นอุบัติเหตุทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศ
เมื่อวานนี้ หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเกาหลีใต้ประกาศว่าจะปรับเปลี่ยนการออกแบบสนามบิน หลังมีข้อสงสัยว่าการออกแบบสนามบินนานาชาติมูอันอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้อุบัติเหตุรุนแรงขึ้น
สายการบินเจจูแอร์จะลดชั่วโมงบินจาก 14 ชั่วโมงในปัจจุบัน เหลือ 12.8 ชั่วโมงต่อลำต่อวัน โดยเจจูแอร์มีชั่วโมงบินมากที่สุดในบรรดาสายการบินโลว์คอสต์ 6 แห่งที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ซึ่งเป็นรุ่นที่ประสบอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะตรวจสอบกฎระเบียบด้านความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกของสายการบินในประเทศทั้ง 11 แห่ง รวมถึงสนามบินทั้ง 15 แห่งภายในเดือนนี้ เพื่อจัดทำแผนปฏิรูปอุตสาหกรรมการบินให้แล้วเสร็จภายในเดือนเม.ย.