ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มองข้ามความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติที่เกิดจากติ๊กต๊อก (TikTok) แอปพลิเคชันสัญชาติจีน ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันพุธ (22 ม.ค.) หลังจากที่เพิ่งเลื่อนใช้กฎหมายที่จะบังคับให้ติ๊กต๊อกปิดตัวลง
"เป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยหรือที่จีนจะสอดแนมเด็ก ๆ ที่ดูคลิปวิดีโอสนุก ๆ" ปธน.ทรัมป์กล่าว พร้อมชี้ว่าผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นที่ผลิตในจีนล้วนมีความเสี่ยงด้านการสอดแนม แต่ติ๊กต๊อกไม่ใช่ภัยคุกคามร้ายแรงที่สุด
"พวกเขาผลิตโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย นั่นไม่ใช่ภัยคุกคามที่ใหญ่กว่าหรือ" ปธน.ทรัมป์กล่าวเสริม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในสมัยแรกที่ดำรงตำแหน่ง ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้ไบต์แดนซ์ (Bytedance) ของจีนถอนการลงทุนจากติ๊กต๊อกสหรัฐฯ เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง แม้ศาลรัฐบาลกลางระงับคำสั่งนี้ แต่สภาได้ผ่านกฎหมายนี้ในปี 2567
อย่างไรก็ดี ติ๊กต๊อกปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการสอดแนมผู้ใช้งานและส่งข้อมูลให้กับทางการจีน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนระบุว่า แอปนี้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลหลายประการ ทั้งชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลบัตรเครดิต พฤติกรรมการใช้จ่าย ข้อมูลเครื่องมือและเครือข่าย ตำแหน่งที่ตั้ง ข้อมูลไบโอเมตริก รูปแบบการพิมพ์ และพฤติกรรมผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์ในสมัยแรกยังเคยกดดันประเทศต่าง ๆ ให้หลีกเลี่ยงการใช้งานอุปกรณ์ของหัวเว่ย (Huawei) ในโครงสร้างพื้นฐาน 5G พร้อมผลักดัน "เครือข่ายสะอาด" เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลจีนเข้าถึงข้อมูลของพลเมืองสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมถึงบริการคลาวด์และสายเคเบิลใต้ทะเล