จีนและอินเดียได้ตกลงจะกลับมาเปิดเที่ยวบินตรงอีกครั้ง อำนวยความสะดวกด้านการขอวีซ่า และเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับแม่น้ำที่ไหลผ่าน 2 ประเทศอีกครั้ง ขณะที่ทั้งสองประเทศซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองนั้นพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตที่เย็นชามานานกว่า 4 ปี
รัฐบาลอินเดียเปิดเผยเมื่อวานนี้ (27 ม.ค.) ว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการประชุม 2 วันระหว่าง วิกรม มีศรี ปลัดกระทรวงต่างประเทศอินเดีย และ ซุน เว่ยตง รองรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนที่กรุงปักกิ่ง
กระทรวงการต่างประเทศอินเดียระบุว่า จีนและอินเดียตกลงกันในหลักการที่จะกลับมาเปิดเที่ยวบินตรงอีกครั้ง และในไม่ช้านี้หน่วยงานด้านเทคนิคจะเจรจากรอบการทำงานใหม่เพื่อดำเนินการดังกล่าว
นอกจากนี้ จีนและอินเดียยังได้ตัดสินใจที่จะอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประชาชน และแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแม่น้ำที่ไหลผ่านทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องมาจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเขื่อนในทิเบต
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นองเลือดจากการปะทะกันที่ชายแดนเมื่อเดือนมิ.ย. 2563 ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดียก็เริ่มเสื่อมลง ส่งผลให้มีการห้ามแอปจีนในอินเดีย, การอนุมัติการลงทุนและวีซ่าของจีนล่าช้า และมีการระงับเที่ยวบินตรง อย่างไรก็ตาม การประชุมระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ที่เมืองคาซานในเดือนต.ค. 2567 ได้สร้างความหวังว่าความสัมพันธ์จะดีขึ้น
แถลงการณ์ระบุว่า จีนและอินเดียได้ตกลงที่จะจัดการประชุมกลไกระดับผู้เชี่ยวชาญอินเดีย-จีนเพื่อหารือเกี่ยวกับการกลับมาดำเนินการจัดหาข้อมูลอุทกวิทยาและความร่วมมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำที่ไหลผ่านทั้งสองประเทศ