ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) ว่า พวกเขาเชื่อว่า ไม่มีผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินชนกันกลางอากาศใกล้กรุงวอชิงตัน ระหว่างเครื่องบินพาณิชย์ที่มีผู้โดยสาร 64 คน และเฮลิคอปเตอร์ทหาร ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รีบนำเหตุการณ์นี้มาโจมตีฝ่ายเดโมแครตทันที
ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าว ณ ทำเนียบขาวว่า "น่าเศร้าที่ไม่มีผู้รอดชีวิต" หลังจากที่ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตได้เปลี่ยนเป็นการกู้ซากในแม่น้ำโพโทแมค จากเหตุเครื่องบินอเมริกัน แอร์ไลน์ (American Airlines) และเฮลิคอปเตอร์ที่มีผู้โดยสาร 3 คนตกเมื่อคืนวันพุธ (29 ม.ค.)
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทรัมป์เริ่มต้นด้วยการแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งประกอบด้วยผู้โดยสารเครื่องบิน Bombardier CRJ700 เที่ยวบินในประเทศจากรัฐแคนซัส และลูกเรือเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กที่กำลังบินฝึก ก่อนที่ทั้งสองลำจะดิ่งลงสู่แม่น้ำที่เย็นเยือก
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กลับพลิกประเด็นโดยระบุว่า "เรายังไม่ทราบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่เรามีความคิดเห็นและข้อสันนิษฐานที่ค่อนข้างชัดเจน" ก่อนจะโจมตีว่ามาตรฐานการรับสมัครเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศในยุคอดีตปธน.โอบามาและไบเดนหย่อนยานเกินไป
ทรัมป์กล่าวอ้างว่านโยบายส่งเสริมความหลากหลาย (DEI) ที่ริเริ่มโดยสองอดีตผู้นำประเทศจากพรรคเดโมแครต และนำมาใช้โดยสำนักงานการบินกลางสหรัฐฯ (FAA) อาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
แม้การสอบสวนเพิ่งเริ่มต้น แต่ทรัมป์กลับอ้างว่า FAA "กำลังรับคนที่มีปัญหาทางสติปัญญาขั้นรุนแรง มีอาการทางจิตเวช และความบกพร่องทางร่างกายและจิตใจอื่น ๆ เข้าทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายความหลากหลายและการอยู่ร่วมกัน" โดยยืนยันว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเพียง "สามัญสำนึกทั่วไป"
"พวกเขาต้องเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์มาแต่กำเนิด จะมาจ้างตาสีตาสามาทำงานนี้ไม่ได้ พวกเขาไม่มีทางทำได้ แต่เราจะทำให้ชาวอเมริกันกลับมาเชื่อมั่นในการบินอีกครั้ง"