ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ (31 ม.ค.) ว่า รัฐบาลกำลังจัดทำแผนรองรับการพัฒนาและใช้งาน AI โดยให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความมั่นคงปลอดภัย หลังจากที่แชตบอตของสตาร์ตอัปจีนอย่างดีปซีค (DeepSeek) เริ่มมีบทบาทมากขึ้น
ในการอภิปรายต่อที่ประชุมรัฐสภา นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชี้ว่า AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ โดยเฉพาะปัญหาผลิตภาพแรงงานต่ำ อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างแพร่หลายอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงด้านข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือน
อิชิบะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรว่า "เราต้องวางแผนให้ชัดเจนว่าจะส่งเสริมการวิจัย พัฒนา และการใช้งาน AI อย่างไรให้ปลอดภัยและมั่นคง"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากดีปซีคได้สร้างความฮือฮาในวงการ AI และตลาดการเงิน ด้วยโมเดล AI ที่ว่ากันว่าใช้ต้นทุนพัฒนาเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากสหรัฐฯ แต่กลับมีประสิทธิภาพทัดเทียมแชทจีพีที (ChatGPT) ของโอเพนเอไอ (OpenAI)
อิชิบะตอบข้อกังวลของ ส.ส. พรรครัฐบาลเกี่ยวกับโมเดล AI ตัวใหม่ของดีปซีคว่า "หากมีการป้อนข้อมูลบางอย่างเพื่อฝึกฝน AI ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ข้อมูลเหล่านั้นจะกระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วน่าใจหาย"
ด้านอิตสึโนริ โอโนเดระ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เมื่อถามดีปซีคเกี่ยวกับหมู่เกาะเซนกากุ ซึ่งเป็นจุดพิพาทระหว่างญี่ปุ่นและจีน ดีปซีคตอบว่า หมู่เกาะเซนกากุเป็นดินแดนของจีนตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และกฎหมายระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม หมู่เกาะเซนกากุอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น ซึ่งยืนยันว่าเป็นดินแดนของตนโดยชอบธรรมตามประวัติศาสตร์และกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะที่จีนก็อ้างกรรมสิทธิ์เช่นกัน
แม้ดีปซีคจะได้รับความนิยมพุ่งพรวด แต่รัฐบาลและบริษัทต่าง ๆ เริ่มออกมาตรการจำกัดการใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยอ้างความกังวลหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้
ทั้งนี้ แม้ญี่ปุ่นยังไม่มีมาตรการในลักษณะเดียวกัน แต่รัฐบาลกำลังเตรียมเสนอร่างกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาและการใช้งาน AI ต่อรัฐสภาในสมัยประชุมปัจจุบัน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 22 มิถุนายน
"เราต้องเร่งผลักดันกฎหมายที่จะช่วยให้เราใช้ประโยชน์จาก AI ได้เต็มที่ ขณะเดียวกันก็ลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด" อิชิบะกล่าว