โรเซน เชลยาซคอฟ นายกรัฐมนตรีบัลแกเรีย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว RIA เมื่อคืนวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) ว่า ลูคออยล์ (Lukoil) บริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของรัสเซีย มีแผนขายโรงกลั่นน้ำมันบูร์กาส (Burgas) ในบัลแกเรีย โดยคาดว่าจะได้เงินราว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ลูคออยล์ถูกกดดันให้ขายโรงกลั่นกำลังผลิต 190,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) แห่งนี้ เนื่องจากถูกมาตรการคว่ำบาตรจากกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน
ทั้งนี้ บัลแกเรียระงับการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย และจำกัดการส่งออกผลิตภัณฑ์ทุกชนิดที่กลั่นจากน้ำมันดิบรัสเซียจากโรงกลั่นเพียงแห่งเดียวของประเทศ อีกทั้งยังจัดเก็บภาษีกำไรจากโรงกลั่นในอัตรา 60%
ทางบริษัทแถลงว่ากำลังทบทวนแผนกลยุทธ์เกี่ยวกับสินทรัพย์ในบัลแกเรีย โดยเมื่อเดือนพ.ย. ลิทาสโก (Litasco) ฝ่ายการค้าของลูคออยล์ ระบุว่า อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ทางเลือกต่าง ๆ ร่วมกับที่ปรึกษาอิสระและบรรดา "ผู้เล่นชั้นนำในตลาด" หลายราย
ในปี 2566 บัลแกเรียเป็นผู้ซื้อน้ำมันขนส่งทางทะเลรายใหญ่อันดับ 4 ของรัสเซีย โดยนำเข้าน้ำมันดิบมากกว่า 1 แสนบาร์เรลต่อวัน
ช่วงต้นเดือนนี้ บริษัทคาซมุไนกาซ (KazMunayGaz) รัฐวิสาหกิจด้านน้ำมันและก๊าซของคาซัคสถานเปิดเผยว่า ได้รับเชิญจากลูคออยล์ให้เข้าร่วมประมูลซื้อโรงกลั่นแห่งนี้
นอกจากนี้ MOL บริษัทน้ำมันและก๊าซของฮังการี ก็ได้ยื่นซองประมูลโรงกลั่นบูร์กาสด้วยเช่นกัน โดยวิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี ระบุว่า MOL เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 7 ราย