โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (31 ม.ค.) ว่า ข้อตกลงการเจรจาต่อรองใด ๆ ที่ทำกับพนักงานของรัฐบาลกลางภายใน 30 วันหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่ง จะไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งนับเป็นความพยายามล่าสุดในการพยายามปรับโครงสร้างการทำงานของภาครัฐในสหรัฐฯ
ในบันทึกที่ส่งถึงหัวหน้าหน่วยงานและกระทรวงทุกแห่งนั้น ทรัมป์ระบุว่า รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนเจตนาทำข้อตกลงการเจรจาต่อรองร่วมกับพนักงานรัฐบาลกลางในช่วงท้ายของการดำรงตำแหน่ง เพื่อพยายามที่จะทำลายการบริหารงานของรัฐบาลทรัมป์ด้วยการขยายระยะเวลาการดำเนินนโยบายที่สิ้นเปลืองและล้มเหลวออกไปอีกหลังจากหมดวาระแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยังไม่มีความชัดเจนในทันทีว่าจะมีข้อตกลงจำนวนเท่าใดที่จะได้รับผลกระทบจากนโยบายใหม่ ซึ่งเรียกข้อตกลงเหล่านี้ว่า เป็นข้อตกลงการเจรจาต่อรองร่วมของรัฐบาลที่ใกล้หมดวาระ
ทั้งนี้ ข้อตกลงการเจรจาต่อรองร่วมเป็นข้อตกลงระหว่างสหภาพแรงงานและพนักงานที่กำหนดเงื่อนไขด้านการทำงาน เงินเดือน และนโยบายอื่น ๆ
บันทึกดังกล่าวอ้างถึงข้อตกลงการเจรจาต่อรองร่วมของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ที่ทำขึ้นสามวันก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งห้ามไม่ให้หน่วยงานส่งพนักงานที่ทำงานจากที่บ้านกลับมาทำงานที่สำนักงาน
ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งผู้บริหารที่กำหนดให้พนักงานรัฐบาลกลางต้องทำงานในสำนักงาน 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นการยกเลิกแนวโน้มการทำงานจากบ้านที่เริ่มต้นในช่วงแรก ๆ หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19