รัฐบาลจีนออกมาประณามการตัดสินใจของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% แต่ยังเปิดทางให้มีการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจบานปลาย
กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า จะยื่นคัดค้านมาตรการภาษีของปธน.ทรัมป์ต่อองค์การการค้าโลก (WTO) และเตรียมใช้มาตรการตอบโต้ ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดในภายหลัง โดยภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันอังคารนี้ (4 ก.พ.)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันเสาร์ (1 ก.พ.) กำหนดอัตราภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา และ 10% สำหรับสินค้าจากจีน โดยให้เหตุผลว่าจีนต้องควบคุมการส่งออกเฟนทานิล ซึ่งเป็นสารเสพติดอันตรายเข้าสู่สหรัฐฯ
กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ว่า มาตรการของปธน.ทรัมป์เป็นการละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ เปิดการเจรจาอย่างตรงไปตรงมาและเสริมสร้างความร่วมมือ
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาตอบโต้ว่า เฟนทานิลเป็นปัญหาของสหรัฐฯ และย้ำว่าจีนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับสหรัฐฯ ในการปราบปรามยาเสพติดมาโดยตลอดจนเกิดผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
การยื่นเรื่องต่อ WTO ถือเป็นการแสดงจุดยืนเชิงสัญลักษณ์ของจีน ซึ่งเคยใช้วิธีนี้คัดค้านมาตรการภาษีของสหภาพยุโรป (EU) ที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้าจีนมาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนเลือกใช้ท่าทีที่ประนีประนอมมากกว่าการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวเหมือนในอดีต โดยเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า สงครามการค้าไม่มีผู้ชนะ