กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลว่าทำให้กระบวนการช่วยเหลือและบูรณะฟื้นฟูฉนวนกาซาล่าช้า แม้ข้อตกลงหยุดยิงจะมีผลแล้วก็ตาม
ฮาเซม กัสเซม โฆษกของกลุ่มฮามาส กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ว่า "ผู้ยึดครองยังคงผัดวันประกันพรุ่งในการดำเนินกระบวนการบรรเทาทุกข์และบูรณะตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงหยุดยิง โดยล้มเหลวที่จะให้ความร่วมมือในพื้นที่มนุษยธรรมต่าง ๆ อย่างเต็มที่"
กัสเซมกล่าวว่า "แม้ว่าจะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อภาคการดูแลสุขภาพ ผู้ยึดครองยังไม่ยอมเปิดทางให้มีการบูรณะใด ๆ หรือนำอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นเข้ามาทั้งสิ้น" พร้อมเสริมว่า เชื้อเพลิงที่ถูกนำเข้ามายังฉนวนกาซา "ยังคงต่ำกว่าระดับที่ตกลงกันไว้เป็นอย่างมาก"
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้บรรดาผู้ไกล่เกลี่ยและผู้ค้ำประกันข้อตกลงหยุดยิงบังคับให้อิสราเอลเปิดทางให้มีการนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงเข้าพื้นที่โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเต็นท์ เชื้อเพลิง เสบียงอาหาร และเครื่องจักรหนัก พร้อมทั้งยุติการละเมิดและการล่วงล้ำอื่น ๆ ทั้งหมด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฮามาสและอิสราเอลตกสู่วังวนแห่งความขัดแย้งที่รุนแรง ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายหมื่นคนนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566 ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงซึ่งมีกาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐฯ เป็นตัวกลางในวันที่ 19 ม.ค. 2568
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยในระยะแรกซึ่งมีเวลา 42 วัน เกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล 33 รายและนักโทษชาวปาเลสไตน์กว่า 1,890 ราย ขณะที่ข้อตกลงระยะต่อไปยังคงอยู่ระหว่างการเจรจา