โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนทางการทูตครั้งสำคัญระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ขณะที่สองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกพยายามหาข้อตกลงที่อาจหลีกเลี่ยงสงครามการค้าในวงกว้าง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำทั้งสองจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งปธน.เมื่อวันที่ 20 ม.ค. โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองได้เคยพูดคุยกันก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์
แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า การพูดคุยของปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 ก.พ.) ทรัมป์ได้สั่งเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน เพื่อกดดันให้ประเทศเหล่านี้ดำเนินการควบคุมสารเฟนทานิลซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการใช้ยาเกินขนาดในสหรัฐฯ อย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยถึงแม้ว่าในเวลาต่อมา ทรัมป์จะตัดสินใจระงับการเก็บภาษีนำเข้าต่อเม็กซิโกและแคนาดาออกไปก่อน แต่มาตรการเก็บภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีนจะยังคงดำเนินต่อไปตามแผนการเดิม ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร (4 ก.พ.) ตามเวลาสหรัฐฯ หรือภายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้
เมื่อวานนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้เตือนด้วยว่า เขาอาจขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก โดยอัตราภาษี 10% นั้นยังต่ำกว่าที่เขาเคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะเก็บภาษีจากจีนสูงถึง 60%
ทั้งนี้ สหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่าเป็นแหล่งผลิตสารเคมีตั้งต้นที่กลุ่มค้ายาในเม็กซิโกใช้ในการผลิตเฟนทานิล ด้านจีนยืนยันว่าได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อปราบปรามการผลิตสารดังกล่าวและการค้ายาเสพติดแล้ว