ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยในช่วงเย็นวันอังคาร (4 ก.พ.) ว่า สหรัฐฯ จะเข้ายึดฉนวนกาซาและจะเป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้
ทรัมป์แนะชาวปาเลสไตน์ทุกคนที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซา ซึ่งมีเกือบ 2 ล้านคนในขณะนี้ว่า พวกเขาควรออกจากดินแดนนี้ และไปตั้งถิ่นฐานในประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงจอร์แดนและอียิปต์เพื่อให้สหรัฐฯ สามารถบูรณะพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งถูกทำลายล้างระหว่างการสู้รบกับอิสราเอล
ทรัมป์กล่าว ณ ทำเนียบขาวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลว่า "กาซาคือหลุมนรก" ก่อนที่ต่อมาเขาจะชี้ว่า กาซาสามารถเป็น "ริเวียราแห่งตะวันออกกลางได้"
ขณะเดียวกัน เนทันยาฮูกล่าวหลังถูกถามเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ จะเข้ายึดฉนวนกาซาว่า "ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้เลยนะ และผมก็คิดจริง ๆ ว่า มันคุ้มค่าที่จะลงมือ"
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของทรัมป์ที่ระบุว่า สหรัฐฯ ควรเข้ายึดครองฉนวนกาซาเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขาเช่นกัน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า ข้อเสนอแนะดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เสนอให้สหรัฐฯ เข้ายึดครองกรีนแลนด์จากเดนมาร์ก และทำให้แคนาดากลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ และทำให้สหรัฐฯ กลับมาควบคุมคลองปานามาอีกครั้ง
ทรัมป์กล่าวในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ว่า "สหรัฐฯ จะเข้ายึดครองฉนวนกาซาและพัฒนาดินแดนแห่งนี้ด้วย เราจะเป็นเจ้าของดินแดนและรับผิดชอบในการเก็บกู้ระเบิดอันตรายทุกลูกที่ยังไม่ระเบิดและอาวุธอื่น ๆ ในพื้นที่ ปรับระดับพื้นที่ และขจัดซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ปรับปรุงพื้นที่ ตลอดจนพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อสร้างตำแหน่งงานและที่อยู่อาศัยที่ไม่จำกัดให้กับประชาชนในพื้นที่"
ทั้งนี้ การเดินทางเยือนทำเนียบขาวของเนทันยาฮูในครั้งนี้เกิดขึ้น ในขณะที่คณะเจรจาจากสหรัฐฯ อิสราเอล และประเทศอาหรับเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับแผนการหยุดยิงระยะที่สองในฉนวนกาซา