หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ชี้ DeepSeek เก็บข้อมูลส่วนตัว "มากเกินเหตุ"

ข่าวต่างประเทศ Monday February 10, 2025 16:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ (NIS) ระบุว่า ดีปซีค (DeepSeek) แอป AI จากจีน เก็บข้อมูลส่วนบุคคล "มากเกินเหตุ" และนำข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนทั้งหมดไปใช้ฝึกระบบ อีกทั้งยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคำตอบของแอปในประเด็นที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอีกด้วย

NIS เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานรัฐต่าง ๆ อย่างเป็นทางการ ให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้งานแอป AI ตัวนี้

"แอปนี้แตกต่างจากบริการ Generative AI ตัวอื่น ๆ โดยยืนยันแล้วว่าสามารถส่งต่อประวัติการแชตได้ เพราะมีฟังก์ชันเก็บรูปแบบการพิมพ์ที่สามารถระบุตัวผู้ใช้ได้ และมีการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทจีน เช่น volceapplog.com" NIS ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.)

หลายกระทรวงในเกาหลีใต้สั่งบล็อกการใช้งานแอปนี้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ซึ่งคล้ายกับที่ออสเตรเลียและไต้หวันก็ออกคำเตือนหรือจำกัดการใช้งาน DeepSeek เช่นกัน

NIS เผยว่า DeepSeek ปล่อยให้ผู้ลงโฆษณาเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ได้แบบไม่มีขีดจำกัด อีกทั้งยังเก็บข้อมูลของผู้ใช้ชาวเกาหลีใต้ไว้ในเซิร์ฟเวอร์จีน ซึ่งตามกฎหมายจีนแล้ว รัฐบาลจีนสามารถขอเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้

NIS ยังพบว่า DeepSeek ให้คำตอบไม่ตรงกันในแต่ละภาษาสำหรับคำถามที่ละเอียดอ่อน เช่น เมื่อถามถึงที่มาของกิมจิ ซึ่งถือเป็นอาหารประจำชาติเกาหลีใต้ แอปกลับตอบไม่เหมือนกัน โดยเวลาถามเป็นภาษาเกาหลี แอปจะบอกว่าเป็นอาหารเกาหลี แต่เมื่อถามเป็นภาษาจีนกลับบอกว่าต้นกำเนิดมาจากจีน ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์ได้ทดลองถามดูแล้วพบว่าเป็นจริงตามนั้น เรื่องที่มาของกิมจินี้ถือเป็นประเด็นที่ทำให้ชาวเน็ตเกาหลีใต้และจีนถกเถียงกันมาหลายปีแล้ว

นอกจากนี้ DeepSeek ถูกวิจารณ์ว่ามีการเซนเซอร์คำตอบเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง อย่างเช่นเหตุการณ์ปราบปรามที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 2532 โดยแอปจะพยายามเบี่ยงประเด็นด้วยการตอบว่า "เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ