รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ร้องขอให้ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงกรณีที่รัฐบาลทรัมป์ต้องการไล่ออกหัวหน้าสำนักงานที่ปรึกษาพิเศษ ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่มีหน้าที่คุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสการประพฤติมิชอบในหน่วยงานภาครัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) ว่า นับเป็นคดีแรกที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของทรัมป์ที่ถูกส่งไปยังศาลยุติธรรมสูงสุดของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งปธน.เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
จากสำเนาเอกสารที่สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ตรวจสอบพบว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ร้องขอให้ศาลสูงสุดยกเลิกคำสั่งของศาลชั้นต้น ซึ่งออกเมื่อวันที่ 12 ก.พ. โดยคำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นได้ระงับการดำเนินการของปธน.ทรัมป์เป็นการชั่วคราวในการปลดแฮมป์ตัน เดลลิงเกอร์ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานที่ปรึกษาพิเศษ ในขณะที่การฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังคงดำเนินอยู่ และคดีนี้ศาลยังไม่ได้เริ่มกระบวนการพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการ
ซาราห์ แฮร์ริส รักษาการรองอัยการสูงสุด ระบุในเอกสารดังกล่าวว่า การที่ผู้พิพากษาสั่งห้ามการไล่ออกนั้น เป็น "การทำร้ายหลักการแบ่งแยกอำนาจรัฐอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"
"ศาลสูงสุดไม่ควรอนุญาตให้ศาลชั้นต้นแย่งชิงอำนาจฝ่ายบริหารไป โดยการออกคำสั่งให้ประธานาธิบดีต้องว่าจ้างหัวหน้าหน่วยงานต่อไปตามระยะเวลาที่ศาลต้องการ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อความประสงค์ของประธานาธิบดี" แฮร์ริสเขียน
ทั้งนี้ เดลลิงเกอร์ได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตปธน.โจ ไบเดน โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี ซึ่งเดิมทีจะหมดวาระในปี 2572 แต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ. เดลลิงเกอร์ได้รับอีเมลแจ้งว่าทรัมป์ได้ปลดเขาออกจากตำแหน่งหัวหน้า โดยให้มีผลทันที หลังจากนั้น เดลลิงเกอร์จึงได้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดี
คำฟ้องของเดลลิงเกอร์ระบุว่า การที่ทรัมป์อ้างว่าไล่เขาออกนั้น เป็นการกระทำที่เกินขอบเขตอำนาจของทรัมป์ เนื่องจากกฎหมายของรัฐบาลกลางอนุญาตให้มีการไล่ออกได้เฉพาะในกรณีที่บุคคลนั้น "ไม่มีประสิทธิภาพ ละเลยต่อหน้าที่ หรือประพฤติมิชอบ" เท่านั้น
"ความสามารถของที่ปรึกษาพิเศษในการปกป้องระบบราชการพลเรือนและตรวจสอบการประพฤติมิชอบที่ถูกกล่าวหานั้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้ ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา มีพนักงานของรัฐบาลกลางจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามระบบราชการพลเรือน ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุอันควร" คำฟ้องของเดลลิงเกอร์ระบุ
ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ เอมี เบอร์แมน แจ็คสัน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ซึ่งมีผลให้คืนตำแหน่งแก่เดลลิงเกอร์ จนกว่าจะมีคำสั่งเบื้องต้นเพิ่มเติมในภายหลัง
ผู้พิพากษาแจ็คสันกล่าวว่า เดลลิงเกอร์มีแนวโน้มที่จะชนะคดี เนื่องจากความพยายามที่จะไล่เขาออกโดยไม่ได้ระบุสาเหตุนั้น "ขัดแย้งอย่างชัดเจน" กับการคุ้มครองตำแหน่งงานของที่ปรึกษาพิเศษภายใต้กฎหมายของรัฐบาลกลาง
"ถ้อยคำนี้แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ชัดเจนของรัฐสภาที่จะรับรองความเป็นอิสระของที่ปรึกษาพิเศษ และปกป้องงานของที่ปรึกษาพิเศษจากการถูกกระทบกระเทือนจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง" ผู้พิพากษาแจ็คสันระบุในคำสั่ง
อนึ่ง สำนักงานที่ปรึกษาพิเศษอนุญาตให้ผู้ที่พบเห็นการกระทำผิดสามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการประพฤติมิชอบที่อาจเกิดขึ้นภายในหน่วยงานของรัฐบาลกลางได้ ตลอดจนตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกแก้แค้นอันเป็นผลมาจากการแจ้งเบาะแส นอกจากนี้ สำนักงานฯ ยังบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ที่ชื่อว่า Hatch Act ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดการมีส่วนร่วมทางการเมืองของพนักงานรัฐบาลกลางอีกด้วย