กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐและรัสเซียเห็นพ้องที่จะตั้งคณะทำงานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่ายเพื่อทำการเจรจาต่อไปในการยุติสงครามในยูเครนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยใช้แนวทางที่ยั่งยืน และเป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย
ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า สหรัฐและรัสเซียจะจัดตั้งคณะเจรจาเพื่อจัดการประชุมปรึกษาหารืออย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับยูเครน
นายยูริ ยูชาคอฟ ผู้ช่วยประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและรัสเซียในวันนี้เป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายมีการหารือกันเกี่ยวกับการเตรียมการจัดประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันประชุมแต่อย่างใด และอาจจะยังไม่เกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและรัสเซียได้เสร็จสิ้นการเจรจาในวันนี้ ซึ่งกินระยะเวลามากกว่า 4 ชั่วโมงที่นครริยาดของซาอุดีอาระเบียเพื่อยุติสงครามในยูเครน
ตัวแทนการเจรจาของรัสเซีย ได้แก่ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย และนายยูริ ยูชาคอฟ ผู้ช่วยประธานาธิบดีรัสเซีย ขณะที่ตัวแทนการเจรจาจากทางสหรัฐ ได้แก่ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นายไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ และนายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของทำเนียบขาว
การเจรจาดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและรัสเซียได้ร่วมโต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่เดือนม.ค.2565 ซึ่งนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในขณะนั้น ได้จัดการประชุมที่นครเจนีวากับนายลาฟรอฟ เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่รัสเซียจะใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารบุกโจมตียูเครน
ด้านนางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในวันนี้ว่า การที่ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้สำหรับรัสเซีย
"การที่ยูเครนจะมีสมาชิกภาพในนาโตเป็นเรื่องที่เรายอมรับไม่ได้ สิ่งนี้จะสร้างภัยคุกคามที่รุนแรงต่อความมั่นคงของเรา และจะนำไปสู่หายนะสำหรับยุโรปทั้งหมด" นางซาคาโรวากล่าว
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า "การที่ยุโรปปฏิเสธไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมนาโตยังไม่เป็นการเพียงพอ โดยนาโตจะต้องยกเลิกสัญญาบูคาเรสต์ปี 2008 ซึ่งระบุว่ายูเครนได้รับการค้ำประกันสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกนาโตในอนาคต มิฉะนั้นปัญหานี้จะยังคงทำลายบรรยากาศบนทวีปยุโรปต่อไป"
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เปิดกว้างต่อการเจรจากับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน หากมีความจำเป็น
อย่างไรก็ดี นายเพสคอฟกล่าวว่า รัฐบาลรัสเซียมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับสถานะการเป็นผู้นำยูเครนของปธน.เซเลนสกีว่ามีความชอบธรรมตามกฎหมายหรือไม่
นายเพสคอฟย้ำว่า ปธน.ปูตินพร้อมที่จะเจรจากับปธน.เซเลนสกี แต่ควรมีการสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นฐานทางกฎหมาย หากมีการทำข้อตกลงใด ๆ เนื่องจากขณะนี้ปธน.เซเลนสกียังคงมีปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน
"ปธน.ปูตินเคยกล่าวว่าท่านพร้อมที่จะเจรจากับปธน.เซเลนสกีหากมีความจำเป็น แต่ควรมีการหารือประเด็นความถูกต้องตามกฎหมายของข้อตกลง เมื่อพิจารณาจากความจริงที่ว่าปธน.เซเลนสกีอาจถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความชอบธรรมตามกฎหมาย" นายเพสคอฟกล่าว