ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับในวันพุธ (19 ก.พ.) ซึ่งรวมถึงคำสั่งที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเงินภาษีของประชาชนไปใช้สนับสนุนการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และคำสั่งที่มีเป้าหมายเพื่อยกเลิกกฎระเบียบที่รัฐบาลมองว่าเป็นการควบคุมมากเกินไป
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำสั่งเกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมืองนั้นห้ามไม่ให้มีการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลกลางไปกับผู้อพยพเข้าประเทศโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยกำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ ระบุว่า โครงการใดบ้างที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางเพื่อกระทำการดังกล่าว
ทำเนียบขาวระบุว่า คำสั่งนี้ยังรวมถึงการป้องกันไม่ให้เงินของรัฐบาลกลางถูกนำไปใช้ในรัฐหรือเมืองที่เรียกว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ (Sanctuary Jurisdictions) ซึ่งหมายถึงเมืองที่ห้ามเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังออกคำสั่งให้หัวหน้าหน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมดตรวจสอบกฎระเบียบต่าง ๆ โดยร่วมมือกับสมาชิกของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลซึ่งนำโดยอีลอน มัสก์ โดยกฎระเบียบใดที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลจะถูกยกเลิกหรือแก้ไข
การดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนความพยายามของมัสก์ในการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งกำลังเผชิญกับอุปสรรคมากมายจากศาลเกี่ยวกับความไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังตั้งเป้าที่จะยุบคณะกรรมการที่ปรึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของทรัมป์ในการควบคุมหน่วยงานอิสระให้มากขึ้น
ทั้งนี้ หน่วยงานที่มีโอกาสถูกยุบได้แก่ สถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐฯ ซึ่งส่งเสริมการแก้ไขข้อขัดแย้งทั่วโลก, มูลนิธิอินเตอร์-อเมริกา ซึ่งให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาชุมชนในลาตินอเมริกาและแคริบเบียน รวมถึงมูลนิธิพัฒนาแอฟริกาแห่งสหรัฐฯ ซึ่งลงทุนในโครงการพัฒนาชุมชนในแอฟริกา