ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ยืนยันไม่ฟื้นคำสั่งทรัมป์ที่จำกัดสิทธิพลเมืองโดยกำเนิด

ข่าวต่างประเทศ Thursday February 20, 2025 13:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เมื่อวันพุธ (19 ก.พ.) ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ยืนยันที่จะคงคำสั่งระงับไว้ตามเดิม ซึ่งเป็นคำสั่งที่สกัดกั้นความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการจำกัดสิทธิความเป็นพลเมืองโดยกำเนิด อันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสายแข็งของพรรครีพับลิกันในการควบคุมการอพยพเข้าเมืองและการลักลอบข้ามพรมแดน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 9 แห่งนครซานฟรานซิสโก มีมติยกคำร้องของรัฐบาลทรัมป์ ที่ขอให้มีคำสั่งฉุกเฉินระงับผลบังคับใช้ของคำสั่งห้ามทั่วประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางแห่งซีแอตเทิลได้ออกคำสั่งดังกล่าวเพื่อขัดขวางคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์

คำสั่งของทรัมป์ซึ่งลงนามในวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 20 ม.ค. มีใจความสั่งการให้หน่วยงานของสหรัฐฯ ปฏิเสธการรับรองสัญชาติของเด็กที่เกิดในสหรัฐฯ หลังจากวันพุธที่ 19 ก.พ.เป็นต้นไป หากทั้งบิดาและมารดาไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกันหรือไม่ได้มีถิ่นพำนักถาวรโดยชอบด้วยกฎหมาย

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ภาค 9 เพื่อขอให้ระงับคำตัดสินของผู้พิพากษาจอห์น คอกเก็นนาวร์ แห่งศาลแขวงซีแอตเทิล ซึ่งวินิจฉัยว่านโยบายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยทางกระทรวงฯ เห็นว่าการที่ผู้พิพากษาออกคำสั่งห้ามทั่วประเทศตามคำร้องของ 4 รัฐที่นำโดยพรรคเดโมแครตนั้น เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต

อย่างไรก็ตาม คณะผู้พิพากษาสามท่านได้มีมติไม่เห็นชอบต่อคำร้องดังกล่าวของกระทรวงฯ และกำหนดนัดพิจารณาคดีในเดือนมิ.ย.

ผู้พิพากษาดาเนียล ฟอร์เรสต์ แห่งศาลอุทธรณ์ภาค 9 ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยปธน.ทรัมป์ในสมัยแรก ได้ให้ความเห็นสอดคล้องว่า การเร่งทำคำวินิจฉัยอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อผู้พิพากษา ซึ่งต้อง "ตัดสินคดีโดยปราศจากอุดมการณ์หรือความลำเอียงทางการเมือง"

"อีกทั้งสถานการณ์เองก็มิได้แสดงให้เห็นถึงภาวะฉุกเฉินที่ชัดเจน เมื่อพิจารณาว่าข้อยกเว้นเรื่องสิทธิความเป็นพลเมืองโดยกำเนิดที่รัฐบาลเรียกร้องนั้น ไม่เคยได้รับการยอมรับจากฝ่ายตุลาการมาก่อน" ฟอร์เรสต์ระบุ

กลุ่มอัยการสูงสุดแห่งรัฐจากพรรคเดโมแครต พร้อมด้วยองค์กรปกป้องสิทธิผู้อพยพและภาคส่วนต่าง ๆ ได้ร่วมกันยื่นฟ้องหลายคดี พวกเขาชี้ว่าคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์นั้นขัดต่อบทบัญญัติว่าด้วยสัญชาติในบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ที่ 14 ซึ่งยึดถือกันมาแต่เดิมว่า ผู้ใดก็ตามที่ถือกำเนิดบนผืนแผ่นดินอเมริกาย่อมได้สัญชาติโดยกำเนิด

กลุ่มอัยการสูงสุดกล่าวว่า ในปี 2441 ศาลฎีกาสหรัฐฯ ได้วางบรรทัดฐานไว้อย่างชัดแจ้งผ่านคดี United States v. Wong Kim Ark ว่า บทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ที่ 14 ประกันสิทธิในการได้สัญชาติโดยกำเนิด โดยมิได้คำนึงถึงสถานะการเข้าเมืองของบิดามารดา

ผู้พิพากษาคอกเก็นนาวร์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากปธน.โรนัลด์ เรแกน แห่งพรรครีพับลิกัน เป็นผู้พิพากษาท่านแรกที่ยับยั้งคำสั่งของทรัมป์ดังกล่าว ด้วยการออกคำสั่งระงับชั่วคราวเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ก่อนจะขยายเป็นคำสั่งห้ามเบื้องต้นโดยไม่มีกำหนด

คำวินิจฉัยของผู้พิพากษาคอกเก็นนาวร์เกิดขึ้นจากคดีที่รัฐต่าง ๆ ภายใต้การนำของพรรคเดโมแครต อันประกอบด้วยวอชิงตัน, แอริโซนา, อิลลินอยส์ และโอเรกอน รวมถึงสตรีมีครรภ์หลายรายร่วมกันฟ้อง โดยผู้พิพากษาคอกเก็นนาวร์ได้ระบุว่า คำสั่งของปธน.ทรัมป์นั้น "ขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างโจ่งแจ้ง"

กลุ่มอัยการสูงสุดแห่งรัฐดังกล่าวระบุว่า หากคำสั่งของทรัมป์มีผลบังคับใช้ ก็จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เด็กกว่า 150,000 คนซึ่งเกิดบนแผ่นดินอเมริกาในแต่ละปีต้องถูกปฏิเสธสิทธิในการเป็นพลเมือง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ